เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปานปรีย์​ พ​ห​ิ​ท​ธา​นุ​กร​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รมว.การต่างประเทศ​ เป็นประธานการประชุม​คณะกรรมการ​เฉพาะกิจ​บริหารสถานการณ์​อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา​ โดยมีนายสีหศักดิ์​ พวงเกตุแก้ว​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ​ ปลัดกระทรวงกลาโหม​ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ​ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด​ ผู้บัญชาการทหารบกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ​ อธิบดี​ อธิบดีกรมสารนิเทศ​ อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศอธิบดี​ กรมเอเชียตะวันออกเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ และข้าราชการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมาย​ ร่วมประชุม​ โดยการประชุมในครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมครั้งแรก​ หลังจากที่นายเศรษฐา​ ทวี​สิน​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รมว.คลัง​ ลงนามแต่งตั้งเมื่อวันที่​ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา​ 


การประชุมในวันนี้ เป็นการหารือประเมินภาพรวมสถานการณ์​ความไม่สงบในเมียนมา​ ทั้งการเตรียมแนวทางรองรับการรับผู้อพยพจากความไม่สงบในประเทศเมียน​มา​ ความสงบเรียบร้อยในพื้นที่​ รวมไปถึงการรุกล้ำเขตแดน​ แต่สถานการณ์​ปัจจุบันยังคงเกิดขึ้นเป็นเฉพาะจุด​ ยังไม่มีการขยายวงกว้างมากนัก​ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด ทางกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้แถลงข่าว​ 

ขณะที่ พลโท ประสาน​ แสงศิริรักษ์​ แม่ทัพภาค 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์​ชายแดน​ยังคงปกติ​ ส่วนที่มีการเพิ่มกำลังพลและยุทโธปกรณ์​ในพื้นที่นั้น​ เป็นเพียงการจัดกำลังเข้าไปเพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและ​ทรัพย์สิน​ของประชาชน​ เพียง​ 1 กองร้อยเท่านั้น​ โดยยืนยันว่า​ไม่ใช่เป็นการรบกับฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากเป็นเรื่องภายใน พร้อมย้ำว่า ภารกิจหลักคือการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ และมีการแจ้งเตือนและตอบโต้หากเกิดกระสุนมาตกในฝั่งไทย​ ส่วนยุทโธปกรณ์ที่ต้องนำไปเสริม เป็นอาวุธในกรอบของกองร้อยทหารราบ​  


เมื่อถามว่าจะต้องมีการเข้มงวดตรวจค้นการอพยพข้ามแดนเพิ่มขึ้น​หรือไม่​ เนื่องจากอาจมีการใช้สถานการณ์​ดังกล่าว ลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศ​ แม่ทัพภาค​ 3 ยืนยันว่า​ 3 ช่องทางท่าข้ามจะต้องมีการเข้มงวดเป็นพิเศษ โดยจะไม่ยอมให้ใช้ไทยเป็นพื้นที่ในการสนับสนุนปฏิบัติการเด็ดขาด.