เมื่อวันที่ 25 ก.พ. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่ได้เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย แต่เร็วกว่าที่คิดเท่านั้น ซึ่งในระหว่างที่นายทักษิณพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ มีคำถามเกี่ยวกับรัฐบาลเลือกปฏิบัติต่อนายทักษิณ ซึ่งนายเศรษฐาปฏิเสธที่จะตอบคำถาม และพยายามโบ้ยความรับผิดชอบไปให้รมว.ยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ทำตัวอยู่เหนือปัญหา แต่เมื่อนายทักษิณ ได้พักโทษและกลับมาอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า นายเศรษฐาชิงเข้าพบนายทักษิณก่อนใครๆ ไม่ว่าการที่นายเศรษฐาเข้าพบนายทักษิณจะเป็นในฐานะใดก็ตาม แต่เป็นที่รับรู้กันว่านายเศรษฐาได้เป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย ก็เพราะได้รับความเห็นชอบจากนายทักษิณ จึงจำเป็นต้องเข้าพบนายทักษิณก่อน ส่วนการออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้พูดเรื่องการเมืองนั้น ก็สามารถปฏิเสธได้ แต่สังคมจะเชื่อหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะการที่นักการเมืองพบกันแต่ไม่คุยเรื่องการเมือง เป็นเรื่องผิดปกติ ผิดวิสัยของนักการเมือง และเป็นไปไม่ได้

“แม้คุณเศรษฐาจะปฏิเสธว่า การเข้าพบคุณทักษิณไม่ได้คุยเรื่องการเมืองก็ตาม แต่สมาชิกพรรคเพื่อไทยหยิบฉวยมาอวยเป็นประเด็นทางการเมืองทันที สร้างกระแสว่าการที่คุณเศรษฐาได้พบกับคุณทักษิณถือเป็นนิมิตหมายอันดี กลิ่นความเจริญ กลิ่นการพัฒนาหอมเข้มและขยับเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ คงเป็นความรู้สึกเฉพาะของคนพรรคเพื่อไทยในฐานะที่เป็นสมุนบริวารของคุณทักษิณ แต่ในความรู้สึกของประชาชนกำลังมีกลิ่นเหม็นฉุนของระบอบทักษิณคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าระบอบทักษิณคืนชีพ ระวังประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในระบอบทักษิณ คือ 1.การทุจริตเชิงนโยบายและผลประโยชน์ทับซ้อน 2.การแทรกแซงองค์กรอิสระ 3.เกิดความแตกแยกเกิดขึ้นของคนในชาติ 4.การจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง อย่าลืมว่าเหตุผลทััง 4 ข้อนี้คือสาเหตุของการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549” นายเทพไท ระบุ