เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นน้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์หลากลงสู่ลำน้ำเข็ก ต้นแม่น้ำวังทอง โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.วังทอง มี ผลกระทบน้ำท่วมเนื่องจากแม่น้ำวังทองล้นตลิ่งจำนวน 11 ตำบล หลายตำบลเริ่มคลี่คลาย เหลือเพียง 3 ตำบล ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ได้แก่ ต.ชัยนาม ต.วังทอง และ ต.วังพิกุล ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ

โดยที่ บ้านวังครุฑ หมู่ 12 ต.วังทอง อ.วังทอง มีพนังกั้นน้ำแตก 1 จุด ส่งผลให้น้ำจากแม่น้ำวังทองไหล ออกมาท่วมบ้านเรือนประชาชนและถนนสายบางสะพาน-วังพิกุล ท่วมเป็นแนวยาวหลายกิโลเมตร ถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่าง ต.วังทอง และ ต.วังพิกุล น้ำท่วมถนนมีความสูงประมาณ 10-30 ซม. รถใหญ่ยังสามารถสัญจรไปมาได้ ซึ่งในแนวตลอดเส้นทางบางสะพาน-วังพิกุล นี้ มักได้รับผลกระทบจากแม่น้ำวังทองล้นตลิ่งเป็นประจำทุกปี ชาวบ้านในละแวกนี้พอคาดเดาสถานการณ์ได้จึงเริ่มทยอยเก็บสิ่งของ รถยนต์ ยานพาหนะ ขึ้นสู่ที่สูง ขณะที่อีกหลายๆหลังที่ถูกน้ำท่วมก็ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติ เพราะเคยประสบปัญหาน้ำท่วมบริเวณนี้บ่อยครั้ง

นอกจากนี้มวลน้ำยังทำให้ริมตลิ่งแม่น้ำวังทองล้น และพนังดินแตก จำนวน 3 จุด เนื่องจากปริมาณน้ำที่หลากมามาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทหารกองบิน 46 ทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกันนำกระสอบทรายไปอุดเสร็จแล้ว 2 จุด เหลือเพียง 1 จุดคือ บ้านวังประดู่ ต.วังพิกุล ซึ่งจุดนี้ค่อนข้างลำบากที่ต้องนำเรือขนกระสบทรายเข้าไปยังจุดรั่วประมาณ 300 เมตร จากนั้นนำเสาไม้ยูคาลิปตัสไปเป็นโครงสร้าง แล้วนำกระสอบทรายใส่ไปในโครงไม้ยูคาซึ่งเป็นวิธีการซ่อมพนังกั้นน้ำในกรณีฉุกเฉิน

ด้าน นายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.วังทอง เริ่มคลี่คลาย มวลน้ำในแม่น้ำวังทอง เริ่มลดลงแต่ในการทำพนังกั้นน้ำที่พังเสียหายในพื้นที่บ้านวังประดู่นั้น ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากประสบปัญหาในการลำเลียงไม้และกระสอบทรายไปเสริมคันดินนั้นค่อนข้างลำบาก ต้องใช้เรือบรรทุกเข้าไปในริมตลิ่งแม่น้ำวังทอง ก่อนที่จะนำไปกั้นแม่น้ำได้ซึ่งอาจต้องเวลาในการทำอีก 1 วัน คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะแล้วเสร็จอย่างแน่นอน ถ้าหากฝนไม่ตกลงมาอีก.