จากกรณี นายกิตติศักดิ์ มากี อายุ 41 ปี ได้โชว์ภาพถ่าย และองค์พญานาคที่อ้างว่าเป็นองค์จริง ลักษณะคล้ายซากสัตว์ส่วนหัวมีหงอนปลายแหลมคล้ายพญานาคเลี่ยมใส่กรอบห้อยคออยู่ พร้อมเปิดเผยว่า พญานาคแปลงกายมาอยู่ที่บ้านตนเป็นเวลา 5 ปีกว่า สร้างความฮือฮาให้แก่ผู้ที่พบเห็นพร้อมกับท้าผู้เชี่ยวชาญให้มาพิสูจน์ว่าวัตถุที่ครอบครองเป็นพญานาคจริงหรือไม่ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ปิดเป็นความลับมา5ปี! หนุ่มภูเก็ตโชว์ซาก ‘พญานาค’ วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องพิสูจน์
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 135/85 หมู่ที่ 5 หมู่บ้านศรีสุชาติ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง ภูเก็ต เพื่อพบกับ นายกิตติศักดิ์ และน.ส.กนิษฐา อายุ 37 ปี ภรรยาของนายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองวัตถุที่อ้างว่าเป็น “พญานาค” โดยนายกิตติศักดิ์ ได้ทำพิธีบวงสรวงโดยจุดเทียนบูชาส่งจิตกระแสถึงร่างพญานาค โดยการจุดเทียนไขบูชาและหยดน้ำตาเทียนลงในขันน้ำและภาพปรากฏออกมา ได้ออกเป็นรูปร่างพญานาค จนที่ประหลาดใจแก่ผู้พบเห็น
ภายหลังเปิดเผยว่า น.ส.กนิษฐา เปิดเผยโดยอ้างว่า ร่างที่เข้ามาอยู่ในบ้านนี้เรียกว่า ร่างกายสังขาร ตั้งแต่ท่านมาอยู่ เราก็มีความเชื่อและพยายามไปสถานที่ที่มีองค์พ่อพญานาคตลอด ซึ่งการไปแต่ละครั้งก็ต้องเดินทางไปด้วยรถยนต์เท่านั้น ไม่ให้นั่งเครื่องบิน บางแห่งต้องใช้เวลา 10-15 วัน การไปแต่ละครั้งก็จะไม่มีการเตรียมการมาก่อน หรือคิดจะไปล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีเหตุการณ์บั้งไฟพญานาค อยากจะไปคำชะโนดไปนครพนม เหมือนพาท่านกลับบ้านตามความเชื่อ
“…ตอนพาท่านไปคือสังขารของท่าน จะเป็นไอน้ำเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยได้ใส่อาบน้ำ ร่างกายของท่านจะมีเมือกมีกลิ่นคาวออกมาเลย สัมผัสได้เองที่เห็นด้วยตามีกลิ่นคาว มีเมือกมีความชุ่มฉ่ำขึ้นมา การเดินทางแต่ละครั้งมีแต่ความราบรื่นไม่เคยติดขัดอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ก่อนสถานการณ์โควิด-19 พวกเราไปเป็นครอบครัว คือ ปิดร้านนวดพาทีมงานไปด้วยกันทั้งหมด ไปกราบสักการะแล้วก็ไปขอบารมีทุกปี…บางครั้งมีข่าวพายุจะลงในพื้นที่จังหวัดนั้น แต่พอเดินทาง ท่านก็เปิดทางให้เดินทางได้สะดวก พอพวกเรากลับ พายุก็จะลงตรงนั้นทันที…” น.ส.กนิษฐา กล่าว
ขณะเดียวกัน นางวันทนีย์ วนวัฒนากุล อายุ 41 ปี ผู้ที่เคยบนบานศาลกล่าวไว้กับของซากพญานาค เปิดเผยว่า ลูกชายอยากได้บ้าน เพราะทำงานประจำ แต่เงินเดือนไม่พอเพราะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด ขณะที่ธนาคารไม่สามารถให้กู้เงินไปซื้อบ้านได้ เนื่องจากหลังละ 4 ล้านกว่าบาท ไปยื่นหลายธนาคารก็เหมือนเดิม สุดท้ายเดินทางมาขอพรจาก “พญานาค” โดยจุดธูป 16 ดอกแล้วบอกกล่าว ปรากฏว่าหลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ มีธนาคารโทรศัพท์ติดต่อกลับมาจะให้กู้เงิน จึงได้ยื่นเอกสารไปใหม่ สรุปว่าไม่ถึงเดือนหลังจุดธูปขอก็ได้บ้านตามประสงค์ ทำให้ตนและลูกชายคิดถึงบ้านนี้ตลอด หากมีปัญหาติดขัดอะไรก็มาบอกกล่าว ชาวบ้านที่มีความเชื่อจะเข้าออกบ้านนี้บ่อยมาก
ด้านนายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า มีคนมาขอเช่าบูชา หลายคนแล้ว แต่ตนไม่มีจุดประสงค์ที่จะปล่อยให้เช่าบูชา เพราะอยากจะเก็บเอาไว้ เพื่อให้ผู้ที่สนใจมากราบไหว้ขอพรเท่านั้น.
