เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ในฐานประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปของ สว. เพื่อให้ ครม. แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงแนวทางปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่ลงมติตามมาตรา 153 ในวันที่ 25 มี.ค. ว่า ทาง สว.พร้อมที่จะอภิปราย โดยจะเป็นการนำเสนอปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้รัฐบาลได้เข้าใจปัญหาและนำไปแก้ไข โดยจะมี สว.แสดงความจำนงที่จะร่วมอภิปรายจากเดิม 30 กว่าคนและได้จัดคนตามเวลาที่มีอยู่ในหนึ่งวันได้ 27 คน โดยอภิปรายใน 7 ประเด็นใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เราเห็นว่ารัฐบาลจะต้องรีบเร่งในการนำปัญหาเหล่านี้ไปแก้ไข ในการบริหารราชการแผ่นดินที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ แต่ปัญหาต่างๆ รัฐบาลพยายามดึงเวลามาถึง 2 เดือน ก็ไม่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจะใส่ใจ โดยรัฐบาลบอกว่ามีภารกิจเยอะแต่เราก็เห็นว่ารัฐบาลโดยเฉพาะนายกฯ เอาแต่ไปต่างประเทศ กลับประเทศมาแล้วก็ยังมีเวลาไปเชียงใหม่ ซึ่งเห็นว่ายังมีเวลาเยอะแยะ แต่เวลาจะประชุมร่วมกันในเรื่องของประเทศกลับบอกว่าไม่มีเวลา เราจึงต้องท้วงติงเอาไว้

“เราจึงต้องท้วงติงเอาไว้เพราะได้ข่าวว่าในวันที่ 25 มี.ค. มีฝ่ายรัฐบาลมาบอกว่านายกฯ จะไม่มาฟังการอภิปราย เราก็หวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นเพราะถือว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องนำปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินมาพูดคุยกับวุฒิสภา ถ้านายกฯ ไม่มาก็อาจจะทำให้การแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จผล และการมาของรัฐบาลนั้นในรัฐธรรมนูญบอกว่าให้มาเป็นคณะ ไม่ใช่มาเพียง 1-2 คน แบบขอไปที เพื่อให้ผ่านไปเท่านั้น เรื่องนี้ต้องขอเรียนไว้เบื้องต้นจะได้ไม่เกิดการต่อว่ากันในที่ประชุม” นายเสรี กล่าวว่า

เมื่อถามว่าที่บอกว่านายกฯ จะไม่มาฟังการอภิปรายมีการยืนยันชัดเจนแล้วหรือยังหรือเป็นเพียงแค่ข่าว นายเสรี กล่าวว่า ไม่ใช่ข่าว แต่เป็นการประชุมในคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา โดยนายเฉลิมชัย เฟื่องคอน สว. ซึ่งเป็นกรรมาธิการด้วยได้ยินมากับหูว่านายตวง อันทไชย สว.ในประธานกมธ.พูดในที่ประชุมว่าได้รับแจ้งจากคนในรัฐบาลว่านายกฯ จะไม่มาฟังการอภิปราย ซึ่งอาจจะทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย เพราะเรื่องสำคัญนายกฯ ควรมาร่วมฟัง เพราะนายกฯ สามารถไปได้หลายที่หลายทาง แต่พองานสภาก็บอกว่าจะไม่มา อย่างไรก็ตาม เราก็หวังว่านายกฯ จะมา และตนไม่ได้บอกว่านายกฯ พูดว่าจะไม่มา แต่มีคนฝั่งรัฐบาลเองแจ้งมา ดังนั้นการที่นายกฯ ไม่มาร่วมประชุมตนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นเรื่องสำคัญของบ้านเมือง และต้องแก้ปัญหาให้กับประชาชน

นายเสรี กล่าวต่อว่า หากนายกฯ ไม่มาฟังการอภิปรายของ สว.จริงๆ ก็จะต้องมีการทักท้วงกันในที่ประชุม แต่เราก็ไม่ได้ผิดหวังอะไร ถือว่าเป็นภารกิจที่นายกฯ ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว และถ้านายกฯ ไม่มาจริงๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ประหลาด เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการอภิปรายของ สว. นายกฯ ก็จะมาร่วมประชุมด้วย ก็มองได้หลายอย่างแต่จะด้วยเหตุใดก็ตามก็ต้องชัดเจนว่าไม่มาด้วยเหตุใด มิฉะนั้นคนเขาจะมองว่านายกฯ หลบ ก็จะทำให้เสีย ดังนั้นนายกฯ ไม่ควรทำ

เมื่อถามใน 7 ประเด็นมีประเด็นไหนที่มี สว.อภิปรายมากที่สุด นายเสรี กล่าวว่า มีประเด็นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องกระบวนการยุติธรรม เรื่องพลังงาน เรื่องการศึกษา แก้ไขรัฐธรรมนูญ การปฏิรูปประเทศ แต่ส่วนใหญ่ผู้อภิปรายก็จะเฉลี่ยกัน ส่วนเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็จะอยู่ในเรื่องกระบวนการยุติธรรม เพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของบ้านเมืองและของประเทศ ฝ่ายรัฐบาลพยายามพูดตลอดว่าทำตามกฎหมาย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าทำตามกฎหมายหรือไม่ แต่ปัญหาที่เกิดคือกฎหมายที่เอามาใช้ถูกต้องเป็นธรรมหรือไม่ ควรจะเอากฎหมายเหล่านี้มาใช้หรือไม่ 

“เพราะฉะนั้นหากยังเห็นแก่คนบางคน เห็นแก่พวกพ้อง ไม่ยึดหลักตามกระบวนการยุติธรรมที่ต้องใช้กับคนทั่วไปก็จะทำให้ต้องแก้ไข ดังนั้นรัฐบาลก็ควรที่จะต้องรับฟังเรื่องเหล่านี้และนำไปแก้ไข อย่าทำอะไรที่มันผิด ๆ” นายเสรี กล่าว.