เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.30 น. วานนี้ (20 มี.ค.) พ.ต.ท.เจษฎา พรหมสุวรรณ์ สวญ.สภ.มะนาวหวาน อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี นำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดหตุ หลังรับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตายและบาดเจ็บ ที่บ้านเลขที่ 65/2 หมู่ 2 ต.ห้วยขุนราม อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี โดยได้รายงานให้ นายธนณัฐ อาจิณกิจ นายอำเภอพัฒนานิคม และผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งประสานตำรวจงานสืบสวน สภ.มะนาวหวาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ลพบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลพัฒนานิคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นคร88 และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงอยู่ห่างจากถนนทางเข้าหมู่บ้านไปประมาณ 100 เมตร ที่พื้นไม้ใต้ถุนบ้านใกล้บันได พบร่างชายจำนวน 2 คน นอนแน่นิ่งจมกองเลือด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดกั้นจุดเกิดเหตุ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์ร่วมในการชันสูตรพลิกศพ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บสาหัส โดยกู้ภัยฯได้นำส่ง รพ.วังม่วง จ.สระบุรี ไปก่อนหน้า 1 ราย และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุทราบชื่อ นายสีไพร โสเพ็ชร อายุ 54 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว สภาพศพนั่งอยู่กับพื้นหน้าคะมำ ที่ผนังข้างบ้านเลือดกระจายเต็มฝาผนัง ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 ที่ท้ายทอย 1 นัด ข้างศพพบค้อนเปื้อนคราบเลือด 1 อัน อีกศพทราบชื่อ นายคมศร ไชยวัฒน์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 3 ต.ห้วยขุนราม ถูกยิงท้ายทอย 1 นัดเช่นเดียวกัน สภาพศพนอนทับชามอาหาร ส่วนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในภายหลังทราบชื่อนายสมรรถชัย กอสูงเนิน อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/1 หมู่ 2 ต.หนองรี อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะและกลางอกรวม 2 นัด รวมเสียชีวิตทั้งสิ้น 3 ราย

จากการตรวจสอบบริเวณพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า CPX สีเทาดำทะเบียน 1 กต 1540 สระบุรี และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ สีฟ้าขาว ไม่ติดป้ายทะเบียนจอดคู่กัน ซึ่งทั้งสองคันเป็นรถของกลุ่มผู้ตาย ขณะที่ผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายอนุวัตร ถัดทะพงษ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 4 ต.ซับสนุ่น อ.วังม่วง จ.สระบุรี หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะ โตโยต้า สีดำ ทะเบียน ยก 2649 นครราชสีมา หลบหนีไม่ทราบเส้นทาง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังม่วง ได้แจ้งว่าได้ทำการจับกุมรถคันก่อเหตุพร้อมด้วยผู้ขับขี่และอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุเอาไว้ได้ที่ด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะนาวหวาน และฝ่ายปกครองอำเภอพัฒนานิคมได้เดินทางไปรับตัวนายอนุวัตร ส่งพนักงานสอบสวน สภ.มะนาวหวาน เพื่อทำการสอบสวน

สอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงทราบว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงอาวุธปืนดังขึ้น 4 นัด จึงได้เดินมาดูพบมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ โดยชาวบ้านเผยว่าบ้านหลังดังกล่าวช่วงเย็นมักจะมีกลุ่มวัยรุ่น มามั่วสุมดื่มสุรา ซึ่งนายอนุวัตรมือปืนที่ก่อเหตุ เป็นหลานเขยของนายสีไพร เจ้าของบ้านที่ถูกยิงตาย ส่วนประเด็นสาเหตุที่มือปืนลงมือก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหดนั้นไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนเสียก่อน ในเบื้องต้นชนวนเหตุสังหาร 3 ศพน่าจะมาจากการทวงหนี้จากธุรกิจมืด

ด้าน นายธนณัฐ นายอำเภอพัฒนานิคม และ พ.ต.ท.เจษฎา สวญ.สภ.มะนาวหวาน ได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเองถึงชนวนเหตุ ซึ่งนายอนุวัตร ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุ ตนเพิ่งได้ปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนของตาที่เสียชีวิตไปแล้ว เอามาพกติดตัวเป็นวันแรก ก่อนหน้าตนได้มีเรื่องทะเลาะกับภรรยา จึงได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด ก่อนที่จะขับรถกระบะมาที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อมาขอมะละกอที่บ้านของผู้ตาย เมื่อเดินทางมาถึงพบว่ามีการตั้งวงดื่มสุรากันอยู่ใต้ถุนบ้าน เมื่อเอ่ยปากขอมะละกอ กลับถูกนายสีไพร ผู้เป็นน้า พูดจากระทบกระทั่ง ดูหมิ่นเหยียดหยามสารพัด ขณะนั้นตนมีอารมณ์เคืองขุ่นมาจากบ้าน มาเจอนายสีไพร ด่าจึงเกิดความโมโห ประกอบกับพฤติการณ์นายสีไพร น้าเขยคนนี้ติดยาเสพติด ชอบไปขอเงินกับเมียตน ซึ่งเป็นหลานสาวรวมถึงขู่เอาเงินจากแม่ยายตน เพื่อเอาเงินไปซื้อยาบ้า พอไม่ให้เงินก็จะข่มขู่คนในบ้านตน ที่สำคัญชอบแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่อหน้าลูกวัย 4 ขวบ และ 11 ขวบของตน จนขวัญหนีดีฝ่อ ซึ่งตนก็เคยเตือนภรรยาว่าสักวันจะเกิดอันตรายกับครอบครัวของเรา

นายอนุวัตร กล่าวต่อว่า นายสีไพร ประวัติก่อคดีฆ่าพ่อตัวเอง ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังออกมาไม่กลับตัวเป็นคนดีทั้งที่มีอายุมากขึ้น และติดยาเสพติด เคยคลุ้มคลั่ง ถือได้ว่าเป็นบุคคลอันตรายสำหรับครอบครัวตน จึงเก็บความแค้นสะสมในใจตลอดมาหลายปี กระทั่งถูกพูดจาถากถางดูถูก เหยียดหยาม ก่อนโต้เถียงผู้ตายได้คว้าค้อนเพื่อทำร้าย ประกอบกับผู้ตายอีก 2 คนที่นั่งอยู่หัวเราะเยาะเย้ย จึงบันดาลโทสะชักปืนจ่อยิงหัวนายสีไพร 1 นัด และยิงนายคมศร เป็นศพที่ 2 ส่วนนายสมรรถชัย ถูกยิงเป็นศพที่ 3 ซึ่งตนยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนเรื่องยาเสพติดตนไม่เคยเกี่ยวข้อง

“เรื่องนี้เป็นเรื่องของความรักลูก รักครอบครัว และแค้นสะสม จนระเบิดความแค้นรัวกระสุน 4 นัด ตายไป 3 คน ส่วนอีก 2 คน ถ้าไม่ปากเสียไม่เยาะเย้ยผม ก็คงจะไม่ตาย” นายอนุวัตร กล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและยิงปืนโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้าน หรือที่ชุมชน คุมตัวส่งพนักงานสอบดำเนินคดีต่อไป.