เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวก่อนเข้าประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2567 ว่า ในวันนี้ จะมีการมอบนโยบายในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กว่า 10 เรื่อง ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กำชับและมีข้อสั่งการเมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยจะนำรายละเอียดไปกำชับผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ระดับรองผู้บัญชาการ ถึงผู้บังคับการในพื้นที่ และหัวหน้าสถานีตำรวจทุกแห่ง

รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า ส่วนสายงานด้านความมั่นคง ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รับผิดชอบ รวมทั้งด้านงานป้องกันปราบปรามที่ตนเองกำกับดูแลอยู่นั้น จะไม่มีการสับเปลี่ยนโยกย้าย เนื่องจากยังมีผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจอีก 4-5 ท่าน ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว ขณะที่ตนเองก็ยังคงรับผิดชอบหน้าที่ในฐานะรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยเช่นกัน รวมถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ก็ยังเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) อยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ระยะเวลา 2 เดือน ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถือว่ามีสปอตไลต์ส่อง และเป็นโอกาสให้แสดงผลงานไปสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ด้วยหรือไม่นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อย่าไปคิดถึงขนาดนั้น ตนเองไม่เคยคาดหวัง หรือมองไปอนาคตถึงขนาดนั้น เราอยู่กับปัจจุบัน แต่จะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดตามที่ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายในฐานะตำรวจ และให้เกิดผลงานโดยเร็วที่สุด ทำให้สังคมได้รับรู้ เกิดความเชื่อมั่นในตำรวจ จะทำให้ดีที่สุด ในขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ย้ำว่าตนเองมีหน้าที่ปฏิบัติตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี รวมถึงกระตุ้นให้กับตำรวจในพื้นที่ ได้ปฏิบัติและให้เกิดผลงาน มิฉะนั้นจะมีการพิจารณาทางปกครอง

เมื่อถามว่าอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับคดีความต่างๆ ในฐานะรักษาราชการแทนฯ สามารถตัดสินใจได้เองหรือไม่ รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า หากอยู่ในอำนาจหน้าที่ กฎหมาย และระเบียบ ก็สามารถตัดสินใจได้เลย เพราะการรักษาการก็มีอำนาจเทียบเท่ากับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว ส่วนการบริหารงานก็คงไม่ต้องหารือกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ในทุกเรื่อง แต่ยังคงให้เกียรติกันในเรื่องของผู้บังคับบัญชาระดับสูง รวมถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในฐานะรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เช่นกัน

เมื่อถามว่าในส่วนคดีสำคัญ เช่น การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนายตำรวจระดับชั้นผู้ใหญ่ หรือคดีเว็บไซต์พนัน BNKMaster ที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เคยจะส่งสำนวนไปให้ ป.ป.ช. จะมีการตัดสินใจอย่างไร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่รับผิดชอบอยู่แล้ว เป็นผู้พิจารณา และมีความเห็นเสนอมาก่อน

เมื่อถามว่าการปราบปรามการพนัน หรือเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับเป็นพิเศษนั้น รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า หลังจากนี้จะกำหนดแนวทางปฏิบัติอย่างจริงจัง แต่จะปราบปรามให้เหลือศูนย์หรือไม่นั้น ก็ยืนยันว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถโดยไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลา แต่จะเร่งรัดให้เกิดความชัดเจนต่อสังคม เพราะได้รับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรีมาแล้ว เช่นเดียวกับกรณีฝ่ายปกครองเข้าจับบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ในอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ที่มีนักพนันกว่า 300 คนนั้น ก็ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ดำเนินการ และได้มีหนังสือสั่งการเรียบร้อยแล้ว ส่วนการพิจารณาลงโทษข้าราชการตำรวจในพื้นที่นั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง.