เมื่อวันที่ 21 มี.ค. นายวันรุ่ง ขนรกุล กำนันตำบลเกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า ได้รับร้องเรียนจากชาวเกาะช้าง ว่า ที่หน้าโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง บริเวณหาดทรายขาว มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำเข้าไปในทะเล ซึ่งหลังจากได้ทราบเรื่องและหนังสือร้องเรียนแล้วได้นำเข้าไปแจ้งในที่ประชุมอำเภอเกาะช้าง ที่มีนายนริศ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา นายอำเภอเกาะช้างเป็นประธาน ซึ่งได้ให้ทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเกาะช้าง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย เจ้าท่าตราด, เทศบาลตำบลเกาะช้าง, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เข้าทำการตรวจร่วมกัน ซึ่งได้นัดหมายในช่วงบ่ายวันที่ 18 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา

โดย นายนริศ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา นายอำเภอเกาะช้าง พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง, ตัวแทนสำนักงานเจ้าท่าตราด, ตัวแทนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง และเทศบาลเกาะช้าง พร้อมผู้จัดการโรงแรมดังกล่าว ได้ร่วมกันตรวจสอบและวัดขนาด พร้อมขอเอกสารกรรมสิทธิ์และใบอนุญาตจากทางโรงแรม แต่ปรากฏว่า ผู้จัดการแจ้งว่า ไม่มีเอกสารอยู่ที่โรงแรม แต่จะประสานกับเจ้าของเพื่อนำเอกสารมาแสดง แต่ยอมรับว่า ไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างจากเจ้าท่า ซึ่งทางเจ้าท่าตราดได้แจ้งให้เจ้าของดำเนินการรื้อถอนออกไปโดยเร็วที่สุด

นายสัญญา เกิดมณี นายกเทศมนตรีตำบลเกาะช้าง เปิดเผยว่า การก่อสร้างแท่นปูนของทางโรงแรมนั้นไม่ได้มีการขออนุญาตจากเทศบาลตำบลเกาะช้าง และไม่มีอำนาจด้วย เป็นเรื่องของทางสำนักงานเจ้าท่าตราด ส่วนการก่อสร้างทางเทศบาลเกาะช้างไม่รู้เรื่องราวใดๆ

ขณะที่นายเนรมิตร สงแสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เปิดเผยว่า พื้นที่การก่อสร้างแท่นปูนแห่งนี้ ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างได้เข้าไปตรวจสอบพิกัดที่มีการก่อสร้างแล้วพบว่า ไม่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ 100% โดยอยู่ในอำนาจของสำนักงานเจ้าท่าตราด ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว เจ้าของไม่ได้มีการขออนุญาตใดๆ จากสำนักงานเจ้าท่าตราด ทำให้สำนักงานเจ้าท่าตราดได้ออกคำสั่งให้เจ้าของโรงแรมทำการรื้อถอนแท่นปูนคอนกรีตแห่งนี้โดยเร็ว

ด้านนายมานพ เหลืองอ่อน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่า เขต 6 สาขาตราด เปิดเผยว่า ทางเจ้าท่าตราดได้เข้าไปตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเกาะช้าง, อุทยานฯเกาะช้าง และร่วมกับนายอำเภอเกาะช้างแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบพร้อมกับผู้จัดการโรงแรม และพบว่า มีการปลูกสร้างแท่นปูนคอนกรีตจริงและยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าท่าตราด แต่ทางผู้จัดการอ้างว่ามีเอกสารสิทธิ จึงขอให้นำมาแสดงว่ามีจริงหรือไม่ และมีเอกสารสิทธิไปถึงไหน รวมทั้งมีพื้นที่ถูกกัดเซาะไปมากน้อยหรือไม่อย่างไร ประการสำคัญ ที่ผ่านมาได้มีการก่อสร้างเดิมอยู่หรือไม่ หากไม่มีก็ถือว่าผิดกฎหมายเจ้าท่าที่มีการก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำออกไป และต้องสั่งทุบทิ้งทั้งหมด แต่หากมีก็ต้องมีหลักฐานยืนยันว่า มี ก็ต้องตรวจสอบว่า ก่อสร้างเกินจากที่มีเอกสารสิทธิหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งให้ผู้จัดการโรงแรมดำเนินการภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการก็จะสั่งให้ดำเนินการทุบทิ้งต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แท่นปูนคอนกรีตขนาดใหญ่ดังกล่าว มีความสูงกว่า 5 เมตร กว้างประมาณ 5-6 เมตร และความยาวกว่า 12 เมตร ซึ่งช่วงที่มีน้ำทะเลขึ้นจะท่วมสูงกว่า 2-3 เมตร ทั้งนี้ด้านข้างยังมีการทำบันไดลงหาดที่ทำติดต่อกันด้วย และคาดว่า น่าจะก่อสร้างมานานถึง 6 เดือนขึ้นไป เนื่องจากมีหอย และสัตว์ทะเลมาเกาะอยู่ที่แท่นปูนแห่งนี้จำนวนมาก นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้กันยังมีการทำทางลงอีก 1 แห่ง และใกล้กันของอีกโรงแรมติดกันมีการทำบันไดลงทะเลอีก 2 แห่ง แต่มีขนาดที่เล็กกว่า.