เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 67 ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ใน จ.นครราชสีมา กรณีนายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. แจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.โคราช ปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตาม ป.อาญา ม.157 หลังพบว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ให้โรงงานแป้งมันปล่อยน้ำเน่าเสียลงบนที่ดิน ส.ป.ก. นับร้อยไร่ จนส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน รวมทั้งเด็กนักเรียนและพระสงฆ์ ต้องอยู่อย่างทรมานจากกลิ่นเน่าของมันสำปะหลัง

โดยมี นายอำมริต คงแก้ว รักษาการ ส.ป.ก.จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป./บก.ปทส. กองบัญชาการสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา กอ.รมน.จังหวัดฯ อุตสาหกรรมจังหวัดฯ ร่วมประชุมก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบการใช้ประโยชน์ทำกินในพื้นที่ ส.ป.ก. ที่มีการร้องเรียนว่ามีนายทุนรายใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา แอบอ้างสิทธิฯ ทำกิน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีขุดดิน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ม.3 (15) ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อไป โดยจะดำเนินคดีกับนอมินี 13 ราย ที่ถือครองแทนนายทุนรายใหญ่

นอกจากนี้มี นายกฤษฎา อินทามระ เจ้าของฉายา “ทนายปราบโกง” ผู้รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการลักลอบทิ้งน้ำเสียลงพื้นที่ ส.ป.ก. 700 ไร่ ในเขต ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อม นายสมบุญ เต็งผักแว่น ตัวแทนชาวบ้านเข้า ร่วมชี้แจงข้อมูลให้ที่ประชุมรับฟังปัญหาน้ำเสียจาการปล่อยน้ำทิ้งของโรงงานแป้งมันฯ จนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านใกล้เคียง

หลังจากรับฟังบรรยายสรุปจากรักษาการ ส.ป.ก.จังหวัดฯ เรียบร้อย คณะตรวจสอบทั้งหมดลงพื้นที่จริงดังกล่าว พบว่ามีการใช้ลวดหนามมากันปิดล้อมทางเข้าด้านหน้าซึ่งเดิมเคยปิดแค่ป้ายห้ามเข้าเท่านั้น คณะจึงต้องอ้อมไปเข้าพื้นที่ที่ดิน ส.ป.ก. ด้านในอีกทางหนึ่งก่อนเดินเท้าสำรวจตรวจสอบโดยใช้เวลานานกว่า 2 ชม. พบว่ามีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวนหลายตัวกำลังแรงม้าสูง ในลักษณะการใช้งานอุตสาหกรรมมากกว่าจะเป็นการใช้งานเพื่อการเกษตร ตามวัตถุประสงค์ของการขออนุญาต ส.ป.ก. ว่าใช้สำหรับเลี้ยงปลา และทำสาหร่าย

นายธนดล กล่าวภายหลังลงพื้นที่ว่า พื้นที่ ส.ป.ก. 13 แปลง เนื้อที่เกือบ 600 ไร่ ที่ชาวบ้านได้ลงในระบบเอาไว้คือเลี้ยงปลาและเลี้ยงสาหร่าย แต่พอลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่จริง พบว่าไม่เป็นดังที่แจ้งเอาไว้ ภาพที่เห็นก็น่าจะเป็นน้ำเสียและปลาไม่สามารถอาศัยอยู่ได้แน่นอน ในส่วนผู้ครอบครองทั้ง 13 รายชื่อ จะให้ปฏิรูปที่ดินเชิญทั้งหมดมาชี้แจง หากไม่สามารถชี้แจงได้จะเพิกถอนสิทธิออกทั้งหมด ส่วนที่มีการขุดดินในพื้นที่ใหม่นั้น จะมีการแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ม.3(15) ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด จะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา 157 กลับทุกรายที่เกี่ยวข้องใน

“ส่วนของการดำเนินคดีกับโรงงานนั้น จะอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนสอบสวน พบว่าเชื่อมโยงกระทำความผิดจะดำเนินคดี ในส่วนของทาง ส.ป.ก. จะแจ้งความในข้อหาขุดดินในพื้นที่ทั้ง 2 ข้อหาทุจริตต่อหน้าที่ ส่วนตัวเองไม่ได้กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น ตอนนี้เอาจริงจังกับเรื่องดังกล่าว เพราะท่าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้ที่ดิน ส.ป.ก. ต้องมอบให้กับเกษตรกรตัวจริง ไม่ใช่เอื้อประโยชน์ให้กับนักธุรกิจ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ข้อพิพาทที่อำเภอปากช่องนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด และตัวเองจะเป็นคนแจ้งความดำเนินคดีเองทั้งหมด” นายธนดล กล่าว

นายกฤษฎา เปิดเผยว่า ต้องขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. โดยส่ง นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ใน จ.นครราชสีมา ตนเห็นการทำงานของที่ปรึกษารัฐมนตรีลงมาพื้นที่แล้ว มีความรู้สึกชื่นชมภูมิใจในการทำงานมั่นใจว่า โรงงานนี้จะไม่ก่อความเดือดร้อนความเสียหายให้กับชาวบ้าน หลังจากลักลอบปล่อยน้ำเสียลงมาแล้วเป็นเวลานาน ชาวบ้านที่แท้จริงจะได้ใช้ทำการเกษตร เพื่อหาเลี้ยงชีพจริงๆ ไม่ใช่นายทุนสวมสิทธิแทน