เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ หอประชุมพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ประธานกรรมการอำนวยการ โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณหมู่บ้านรักษาศีล 5 ต้นแบบ ประจำปี พ.ศ.2566 โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5”

โดยมีพระธรรมวชิรานุวัตร ประธานกรรมการบริหารกลางโครงการฯ เป็นผู้ถวายรายงาน พร้อมด้วยคณะสงฆ์ นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผวจ.นครปฐม นางกณิกนันต์ ล้อสีทอง รอง ผอ.ปฏิบัติราชการแทน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ น.ส.ชุติญา แก้วมณี รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ตลอดจนผู้แทนหมู่บ้านรักษาศีล 5 ต้นแบบ ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก

คณะสงฆ์ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 จวบจนปัจจุบัน ประกอบกับสำนักงานคณะกรรมการบริหารกลางร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนระดับหน คณะกรรมการขับเคลื่อนระดับจังหวัด รวมถึง คณะสงฆ์ทุกจังหวัด หน่วยงานราชการ องค์กรภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันดำเนินการขับเคลื่อนโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง โดยมีนโยบายในการส่งเสริม สนับสนุนการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (ศีล 5) สู่ประชาชน

รวมถึงมุ่งเน้นการพัฒนาทางด้านจิตใจให้มากขึ้น ตามหลักไตรสิกขา อันเป็นธรรมแห่งการพัฒนาชีวิตให้ประสบความสำเร็จตามหลักพระพุทธศาสนา ทั้งนี้ คณะกรรมการขับเคลื่อนระดับหนได้มีการลงพื้นที่ตรวจติดตามผลการดำเนินงานโครงการฯ ในทุกจังหวัด และได้คัดเลือกหมู่บ้านที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น เป็นที่ประจักษ์ และสามารถเป็นต้นแบบในด้านการรักษาศีล 5 เพื่อยกย่อง และเชิดชูเกียรติเป็นหมู่บ้านรักษาศีล 5 ต้นแบบ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ระดับจังหวัด จำนวน 77 หมู่บ้าน ระดับภาค จำนวน 14 หมู่บ้าน และระดับหน จำนวน 4 หมู่บ้าน

ในการนี้ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ประธานในพิธี กล่าวสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า ศีล เป็นเครื่องข่มจิต ข่มที่ตัวจิตไม่ให้ตามใจกิเลส สมาธิ เป็นเครื่องข่มกิเลส ไม่ให้มาเบียดเบียนจิตได้ ปัญญา เป็นเครื่องขุดรากถอนโคนกิเลสให้หมดสิ้นไป

หลักทั้ง 3 ประการนี้ เป็นส่วนประกอบในการพัฒนาบุคคล ฝึกตนในด้านพฤติกรรม คือ ศีล ฝึกตนในด้านจิตใจ คือ สมาธิ และฝึกตนให้รู้ความจริง คือ ปัญญา เป็นหลักพื้นฐานสำหรับการดำเนินชีวิตไปตามปกติธรรมดา ตลอดจนเป็นแนวทางดำเนินโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” เพื่อให้เกิดความสุข ความสงบเย็น ไม่ประทุษร้ายเบียดเบียนผู้อื่น ยังให้เกิดสันติสุขที่แท้จริง และมีความมั่นคงในพระพุทธศาสนา ประเทศชาติ และประชาชนสืบไป