เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในวาระ 3 แล้ว และจะมีการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า หลังจากสภาลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 แล้ว จะเป็นหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบให้เป็นกฎหมายงบประมาณ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าการทำงบประมาณดังกล่าวมีความล่าช้ามาก ทำให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนยังต้องรอ ดังนั้น รัฐบาลต้องใส่ใจกับปัญหาต่างๆ ให้มากขึ้น เพราะมีบางเรื่องที่ไม่จำต้องรองบประมาณใหม่ แต่ยังไม่ได้มีการขับเคลื่อนใดๆ อาทิ การพักหนี้เกษตรกร ที่ยังมีประชาชนรออยู่ การปราบปรามยาเสพติดที่ยังไม่มีการจัดการอย่างเป็นระบบ โครงการเติมเงินให้ประชาชนผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ประชาชนรอ แต่รัฐบาลยังไม่มีจุดหมายที่แน่นอน และมีอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลไม่จริงใจ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ จะติดตามการใช้จ่ายงบประมาณปี 2567 อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเกิดประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศให้มากที่สุด

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนการอภิปรายทั่วไปนั้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำเสมอว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ และ สส. ทุกคน ได้เตรียมความพร้อมและข้อมูลที่น่าสนใจหลายประเด็นสำหรับการอภิปรายครั้งนี้ อีกทั้ง การอภิปรายจะยึดข้อบังคับการประชุมอย่างเคร่งครัด แต่หาก สส. ของฝ่ายรัฐบาลจะประท้วง ก็ขอให้ยึดข้อบังคับ และอยากให้เปิดใจรับฟังกันด้วยเหตุผล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่กังวล หากจะมีการประท้วงในการอภิปรายเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้มีพระคุณของฝ่ายรัฐบาล เพราะประชาชนฟังอยู่ และตนขอย้ำว่า นายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม ต้องตอบคำถามเรื่องนี้ให้ชัด เพราะบุคคลทั้งสองเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง