เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงการคลัง ได้ปรับระบบการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ เพื่อเป็นการป้องกันให้แก่ผู้มีสิทธิ ไม่ให้ถูกผู้อื่นนำวงเงินสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐไปใช้โดยผู้มีสิทธิไม่ยินยอม โดย ธนาคารกรุงไทย พัฒนาแอปพลิเคชันถุงเงินที่รับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยวงเงินสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้มีสิทธิจะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนและรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก พร้อมทั้งสแกนใบหน้าสำหรับการยืนยันการชำระเงิน เพื่อให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้เริ่มใช้งานตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2567

ยกเว้นกลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุ ที่มอบอำนาจให้ดำเนินการแทน และกลุ่มผู้ที่สแกนใบหน้าไม่ผ่าน ตั้งแต่ขั้นตอนยืนยันตัวตน (e-KYC) ไม่ต้องทำการสแกนหน้าในการยืนยันการชำระเงิน อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ด้วยตนเอง และได้ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) ด้วยตนเองไปแล้ว หากไม่สะดวกเดินทางไปใช้สิทธิที่ร้านค้าด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้ดูแลกรอกแบบฟอร์มหนังสือมอบอำนาจสำหรับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง และนำเอกสารไปดำเนินการที่สาขา ธนาคารกรุงไทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 เกิดดราม่า ผู้มีสิทธิคนหนึ่งไปใช้สิทธิซื้อสินค้าร้านธงฟ้า ที่รับชำระค่าสินค้าด้วยแอปพลิเคชันถุงเงินที่ จ.ชัยนาท เมื่อเลือกซื้อสินค้าแล้ว ในขั้นตอนการชำระค่าสินค้าจะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน และรหัสคู่บัตร 6 หลัก พร้อมทั้งสแกนใบหน้า แต่สแกนใบหน้าไม่ผ่านทำให้ต้องคืนสินค้า จากการตรวจสอบพบว่าในวันเดียวกันนั้นผู้มีสิทธิรายดังกล่าว ได้ใช้สิทธิซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุที่สแกนใบหน้าไม่ผ่าน เนื่องจากแสงสว่างมากเกินไป

กรมบัญชีกลาง จึงได้แนะนำขั้นตอน เพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่สามารถสแกนใบหน้าผู้มีสิทธิได้ ให้ร้านค้าหรือผู้ประกอบการดำเนินการ ดังนี้

  1. ให้ผู้มีสิทธิยืนในตำแหน่งของร้านค้าที่มีแสงสว่างเหมาะสม ไม่ยืนย้อนแสง ไม่มีเงาตกกระทบบนใบหน้า
  2. ให้ผู้มีสิทธิถอดแว่นตก หมวก และหน้ากากอนามัย (ถ้ามี) ออก เก็บผมไว้หลังใบหูขณะทำรายการ
  3. ให้ใบหน้าผู้มีสิทธิอยู่ในกรอบ พร้อมมองตรง ไม่เอียงศีรษะ ไม่ขยับหน้าไปมาขณะถ่ายรูปสแกนใบหน้า

ทั้งนี้ สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้มีสิทธิซึ่งมีชื่อระบุบนหน้าบัตรเท่านั้น ผู้มีสิทธิจะต้องเก็บและรักษาบัตรประจำตัวประชาชนและรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก ไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อประโยชน์ในการรับความช่วยเหลือผ่านบัตรประจำตัวประชาชน โดยร้านธงฟ้า ร้านค้าก๊าซหุงต้ม และผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ จะต้องตรวจสอบรูปหน้าบนบัตรประจำตัวประชาชนทุกครั้งก่อนใช้สิทธิ หากตรวจสอบแล้วพบว่า ร้านค้าและผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะไม่ปฏิบัติตาม จะถูกเพิกถอนการเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ กรณีมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2109-2345 และ Call Center กรมบัญชีกลาง 0-2270-6400 ในวันเวลาทำการ