สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ว่าผลอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งประธานาธิบดีเซเนกัล ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า นายบาสซิรู ดิโอมาเย ฟาเย ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนผู้สมัครของฝ่ายค้าน ได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากที่สุด


ขณะเดียวกัน ฟาเย วัย 44 ปี เป็นอดีตนักโทษการเมือง และได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำล่วงหน้า ก่อนถึงกำหนดการลงคะแนนเลือกตั้งเพียง 10 วัน กล่าวว่า ตัวเขาคือ “ทางเลือกจากขั้วอำนาจเก่า” และให้คำมั่น “การประนีประนอมระดับชาติ” และการแก้ไขปัญหาเรื่องค่าครองชีพ


ด้านนายอมาดู บา วัย 62 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นตัวแทนจากพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ และแสดงความยินดีกับฟาเย ขณะที่ประธานาธิบดีมากี ซาล ผู้นำคนปัจจุบันของเซเนกัล ซึ่งกำลังจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 2 เม.ย. ที่จะถึง กล่าวแสดงความยินดีกับฟาเย

มวลชนฝ่ายสนับสนุนนายบาสซิรู ดิโอมาเย ฟาเย รวมตัวในกรุงดาการ์ เมืองหลวงของเซเนกัล เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะ


อีกด้านหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ แสดงความยินดีที่การเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ของเซเนกัลผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้ล่าช้านานหลายเดือน เช่นเดียวกับฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมของเซเนกัล จนถึงปี 2503


เดิมที เซเนกัลซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศมีฐานะทางเศรษฐกิจมั่นคงที่สุดในทวีปแอฟริกา และเป็นประเทศแห่งเดียวในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งยังไม่เคยเผชิญกับการรัฐประหาร ต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา แต่ตอนนั้นซาลประกาศเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตุลาการกับฝ่ายนิติบัญญัติ ส่งผลให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในรอบหลายปี


จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญเซเนกัลมีคำพิพากษา เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่ ต้องเกิดขึ้นก่อนการหมดวาระของซาล ซึ่งดำรงตำแหน่งมาแล้วสองสมัย.

เครดิตภาพ : AFP