ยังคงเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ ที่หลายคนสนใจอย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องราวของอดีตพระเอกดัง เมฆ-วินัย ไกรบุตร ที่จากไปอย่างสงบเมื่อคืนวันที่ 20 มี.ค. 2567 เวลา 23.49 น. ที่ผ่านมา จากภาวะความดันตก ติดเชื้อในกระแสเลือด กระทั่งหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่ง เอ๋-อรชัญญาช์ ไกรบุตร ภรรยาของเมฆนั้น ได้ออกมาแจ้งข่าวร้ายกับแฟนๆ ด้วยตัวเอง ผ่านโซเชียลมีเดีย ท่ามกลางความตกใจและอาลัยของแฟนๆ ทุกคน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดในงานคอนเสิร์ต “เพื่อนมีไว้ทำไม?” ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาเลียบทางด่วนรามอินทรา เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว เมฆ วินัย นำทีมโดยเพื่อนสนิทอย่าง หนุ่ม คงกระพัน โดยมีการรวมนักร้องยุค 90 จำนวนมาก ที่รักและสนิทสนมกับเมฆ ซึ่งในงานเอ๋ได้เปิดใจถึงเรื่องราวความรู้สึกของตนเองว่า

“เรื่องคอนเสิร์ตก็ดีใจแทนพี่เมฆนะคะ ถ้าเขายังอยู่เขาคงเป็นปลื้ม จริงๆ เขาก็รู้ว่าเพื่อนเขาเยอะ แต่เขาไม่รู้ว่าเพื่อนรักพี่เมฆมากแค่ไหน วันนี้ถ้ามองอยู่พี่เมฆก็คงจะดีใจค่ะ ก็เกินคาดนะ ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ค่ะ ก็มีกำลังใจค่ะ ที่ทำให้เห็นว่าพี่เมฆไม่ต้องเสียใจแล้ว และถ้ายังอยู่ ถ้ายังได้ยินก็อยากให้รู้ว่าให้ไปอย่างมีความสุข เพราะพวกเราก็จะใช้ชีวิตของพวกเราอย่างดีที่สุดเหมือนกัน เรื่องลอยอังคารพี่เมฆแล้ว ก็ได้ส่งเขาเป็นครั้งสุดท้าย น้องเมิร์ช น้องมาร์ค น้องแมม ก็เห็นคุณพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ทุกคนก็อยากให้พ่อเขาไปสู่ภพภูมิที่ดีค่ะ จริงๆ ไม่อยากหยุดเหนื่อยนะ เพราะถ้าหยุดเหนื่อยก็ต้องอยู่คนเดียว ก็อยากจะให้มันยุ่งๆ เข้าไว้ค่ะ ก็ต้องลุยงานทำงานไป ตอนนี้ก็จะเปิดบริษัทเพิ่มนะคะ แล้วก็มีโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตเครื่องสำอาง และกำลังดูเกี่ยวกับการส่งออกอยู่ค่ะ กำลังคุยกันไว้หลายทีมพอสมควร เพราะจริงๆ แล้ว เป็นแพลนที่เอ๋วางไว้ก่อนที่พี่เมฆจะไป แต่เอ๋ยังไม่ได้คุยกับเขา เพราะเห็นว่าเขายังไม่ได้อยู่ในโหมดที่คุยกับเราได้ แต่ก็วางแผนไว้ก่อน เพราะเอ๋รู้ว่าช่วงนั้นเราต้องแบกรับค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ เอ๋ก็อยากจะให้เขาภูมิใจและให้เขากลับมาแข็งแรงได้เร็ว แต่มันก็กลายเป็นว่าเขาจากไป แต่เราก็ยังต้องสานต่อค่ะ”

“อย่างการมีหนี้ 8 ล้าน จริงๆ เป็นเรื่องหนี้สินมากกว่าค่ะ เพราะเรื่องการศึกษาของลูกๆ เอ๋มองว่าถ้ายังทำงานต่อไป ก็ยังสามารถเก็บเงินส่งลูกเรียนได้ แต่ในส่วนหนี้สินของพี่เมฆ เอ๋ก็อยากจะเคลียร์ให้มันสะอาด จริงๆ ปีนี้ก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ถ้าเป็นไปได้จะเคลียร์หนี้เขาให้หมด ก็ประมาณ 7-8 ล้านค่ะ ก็อยากจะเคลียร์ให้หมดภายในปีนี้ค่ะ จริงๆ คนเรามันต้องมีเป้าหมายก่อน และเราก็จะรู้สึกว่าเราต้องทำมันให้สำเร็จ มันเป็นก้อนที่พี่เมฆเขาก็รู้อยู่แล้ว เพราะเขาเป็นคนเอ่ยปากหยิบยืมมา และเป็นส่วนที่เขาใช้รักษาตัวเอง จากการที่ต้องซื้อพวกอุปกรณ์ต่างๆ ถ้าเคยไปสัมภาษณ์ที่บ้าน ก็จะเห็นว่าอุปกรณ์พี่เมฆค่อนข้างเยอะและใช้เปลือง แต่เราก็ต้องเน้นความสะอาด เพราะที่ผ่านมา 5 ปี เขาไม่เคยติดเชื้อเลย อย่างของใช้ของเขาทั้งหมด เอ๋ก็ซักด้วยน้ำร้อนหมด อาบน้ำ ทำแผลเขา พวกน้ำเกลือก็ใช้วันหนึ่งเป็นลังๆ เรามั่นใจเลยว่าการดูแลของเรา เขาไม่มีทางติดเชื้อ แต่ที่ติดเชื้อที่ผ่านมา มันเป็นเพราะว่าเขาไปลอกหนังตัวเองออกหมด”

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก winaikraibutr