เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยก คอกวัว เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL) จัดแถลงข่าวและเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภาของประชาชน โดยขณะนี้มีผู้ประสงค์ลงสมัครเป็น สว. ร่วมกับเครือข่ายฯ จำนวน 42 มาร่วมเปิดตัววันนี้ จำนวน 29 คน นำโดยนายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตอัยการ และอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ น.ส.ชลณัฏฐ์ โกยกุล หรือปาล์ม พิธีกร น.ส.หทัยรัตน์ พลทัพ บรรณาธิการสำนักข่าวเดอะอีสานเรคคอร์ด นายนคร พจนวรพงษ์ อดีตผู้พิพากษา น.ส.คอรีเยาะ มานุแช ทนายความสิทธิมนุษยชน นายศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ หรือปิงปอง นักร้องและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง นายถนัด ธรรมแก้ว หรือภู กระดาษ นักเขียน นายสรศักดิ์ สมรไกรสรกิจ ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ นพ.จักรพงษ์ นะมาตร์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายอดิศร พร้อมเทพ อดีตอธิบดีกรมประมง นายอรรถพล ศรีชิษณุวรานนท์ องค์กรผู้พิการเอกชน นางนงเยาว์ เนาวรัตน์ อดีตอาจารย์ คณะศึกษาศาสตร์ ม.เชียงใหม่ น.ส.ดุจดาว วัฒนปกรณ์ นักบำบัดด้วยศิลปะเพื่อการเคลื่อนไหว นายแล ดิลกวิทยรัตน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย อดีตรองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน เป็นต้น

ทั้งนี้ นายพนัส อ่านแถลงการณ์ตอนหนึ่งว่า ตนมาในวันนี้ เพราะเป็นประชาชนคนไทยที่ตระหนักว่าวุฒิสภา เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบสภาที่เข้มแข็ง โปร่งใส และบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้หลักการตรวจสอบและถ่วงดุล วุฒิสภาสำคัญยิ่งต่อการวางทิศทางอนาคตของประเทศ ทั้งการลงมติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญการออกกฎหมาย การคัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารอย่างเป็นกลางและเป็นธรรม ตนเห็นว่าระบบกฎหมายในประเทศไทยวันนี้ ผิดเพี้ยนไปจากหลักการประชาธิปไตย ถูกบิดผันไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง เอื้อต่อผู้มีอำนาจ จนประชาชนโดยทั่วไปเสื่อมศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญปี 2550 และศาลรัฐธรรมนูญ กับองค์กรอิสระ ที่ไม่ได้ทำงานเพื่อการตรวจสอบถ่วงดุลกับฝ่ายบริหาร แต่กลับกลายเป็นกลไกเครื่องมือหนึ่งของฝ่ายบริหาร

นายพนัส กล่าวว่า ตนพร้อมสมัครเข้าสู่กระบวนการเพื่อรับการคัดเลือกเป็น สว. ชุดต่อไป ที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.-ก.ค. นี้ โดยมิได้มุ่งหวังแสวงหาอำนาจหรือเอาประโยชน์ ส่วนตนเป็นที่ตั้ง เพียงมุ่งหมายที่จะมีส่วนร่วมในกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อผลักดันและยืนยันหลักการประชาธิปไตย ไม่ฝักใฝ่เผด็จการและไม่ยอมรับอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ โดยตระหนักดีว่าระบบการคัดเลือก สว.ปัจจุบัน ยังไม่ยึดโยงกับประชาชนเพียงพอ ไม่สามารถทำให้ได้มาซึ่งตัวแทนของประชาชนที่หลากหลายครบถ้วน แต่การลงสมัครครั้งนี้เป็นหนทางเดียวที่มีในปัจจุบัน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตามหลักการประชาธิปไตย

“ผมขอแสดงความประสงค์ที่จะลงสมัครรับการคัดเลือกเป็น สว. ร่วมกัน ณ ที่นี้ ด้วยเหตุที่ผมมีความคิดความเชื่อตามที่กล่าวมาข้างต้นร่วมกัน และผมตระหนักดีว่าความคิดความเชื่อเหล่านี้ เป็นสิ่งที่อยู่ในใจประชาชนจำนวนมาก ผมหวังว่าประชาชนคนไทยอีกจำนวนหลักล้านคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน จะสมัครเข้าร่วมในการคัดเลือก สว. ชุดต่อไป เพื่อให้ประชาชนมีตัวเลือกที่หลากหลาย และให้มีการลงคะแนนอย่างกว้างขวางจากประชาชนมากที่สุด” นายพนัส กล่าว

นายพนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนประกาศไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า ความตั้งใจของตนคือเข้าไปแก้และรื้อธรรมนูญเพื่อให้เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานที่สุด คืออำนาจสูงสุดต้องเป็นของราษฎรชาวไทย

ขณะที่ น.ส.หทัยรัตน์ กล่าวว่า การมารวมตัวกันในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการจัดตั้งกลุ่มโดยบุคคลหรือองค์กรใด โดยส่วนตัวตนสนใจเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะเป็นสื่อมวลชนที่ติดตามการเมืองมากว่า 22 ปี เราเห็นว่าครั้งนี้มันไม่ได้แล้ว เพราะกฎกติกาที่มันซับซ้อนและมีข้อบกพร่องจำนวนมาก ทำให้พวกเราต้องก้าวออกมา เชื่อว่าไม่ได้เป็นการดำเนินการที่ขัดต่อข้อกฎหมายใดๆ ของ กกต. ซึ่งเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญเห็นว่า หากผู้ที่สนใจมาร่วมกันแถลงข่าว จะทำให้เกิดปรากฏการณ์และเป็นการเชิญชวนให้คนออกมาร่วมสมัคร สว. ให้มากขึ้น.