สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ว่า การสอบสวนดังกล่าว อยู่ภายใต้กฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นความพยายามในการป้องกันไม่ให้เงินอุดหนุนจากต่างประเทศบ่อนทำลายการแข่งขัน ที่ยุติธรรมในประเทศสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ดำเนินการสอบสวนกิจการค้าร่วม 2 กลุ่ม โดยกลุ่มหนึ่งประกอบด้วยกลุ่มอีเนโว ในโรมาเนีย และบริษัทย่อยในเยอรมนี ของบริษัทแม่สัญชาติจีน “หลงอี้ กรีน เอเนอร์จี เทคโนโลยี” ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์รายใหญ่ที่สุดของโลก

ส่วนกิจการร่วมค้าอีกกลุ่มที่ถูกสอบสวน ประกอบด้วยบริษัทย่อย 2 แห่ง ซึ่งมีบริษัท “เซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริก กรุ๊ป” เป็นเจ้าของและควบคุมการดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบ

อนึ่ง กฎระเบียบใหม่ของอียู กำหนดให้บริษัทต่าง ๆ แจ้งให้อีซีทราบ เมื่อการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในอียู มีมูลค่ามากกว่า 250 ล้านยูโร (ราว 10,000 ล้านบาท) และเมื่อบริษัทได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากต่างประเทศ อย่างน้อย 4 ล้านยูโร (ราว 160 ล้านบาท) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

“คณะกรรมาธิการพิจารณาเห็นว่า มีเหตุสมควรที่จะเปิดการสอบสวนเชิงลึก ต่อผู้ประมูลทั้งสองรายนี้ เนื่องจากมีข้อบ่งชี้เพียงพอว่า บริษัททั้งสองแห่ง ได้รับเงินอุดหนุนจากต่างประเทศ ซึ่งบิดเบือนตลาดภายในของอียู” อีซี ระบุในแถลงการณ์

ขณะที่ นายตีแยรี เบรตอง ข้าหลวงด้านตลาดภายในของอียู กล่าวว่า การสอบสวนเชิงลึกเกี่ยวกับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ ในภาคส่วนแผงโซลาร์เซลล์ครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และความสามารถในการแข่งขันของยุโรป โดยทำให้แน่ใจว่า บริษัทต่าง ๆ ในตลาดเดียวของอียู มีการแข่งขันและยุติธรรมอย่างแท้จริง.

เครดิตภาพ : AFP