จากกรณีเพจร้าน ชาบู & ปิ้งย่าง ชื่อดัง ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ ชี้แจงและอธิบายข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ร้านชาบู&ปิ้งย่าง สาขาสนามบินน้ำ วันที่ 03/04/2567 เวลาประมาณ 20.00-22.00 น. ทางเราได้ไตร่ตรองอยู่นานว่าจะโพสต์ดีไหม โพสต์แล้วจะเป็นอย่างไรต่อ และได้ข้อสรุปว่าอยากให้ลูกค้ารับฟังเสียงของพวกเราในฐานะผู้ให้บริการ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมากตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 5 เม.ย. 67 น.ส.อีฟ อายุ 33 ปี อาชีพ รปภ. ลูกค้าคู่กรณีร้าน ได้เดินทางเข้ามาพูดคุยกับ น.ส.ดวงกมล พุ่มมณี อายุ 24 ปี ผู้จัดการร้าน ชาบู&ปิ้งย่าง สาขาสนามบินน้ำ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว

น.ส.อีฟ กล่าวว่า วันนี้ตนได้เดินทางเข้ามาเพื่อจะขอโทษ และไกล่เกลี่ยกับทางร้าน แต่ผู้จัดการร้านแจ้งว่าต้องรอทางสำนักงานใหญ่ติดต่อกลับ ซึ่งวันที่เกิดเหตุตนได้ขอโทษร้านไปแล้วผู้จัดการร้านบอกว่า เขาอาจจะไม่ได้ยิน จริงๆ แล้วตนใช้กระดาษทิชชู่เช็ดปาก และมัวแต่กดโทรศัพท์ จึงไม่เห็นว่าตัวเองคีบกระดาษทิชชู่ลงไปในหม้อชาบู ตนจึงเรียกพนักงานมาเพื่อบอกเรื่องกระดาษทิชชู่ว่ามีในหม้อ จากนั้นพนักงานได้ขอโทษ และนำถาดที่มีทิชชู่ไปเก็บ ตนก็นั่งทานต่อปกติ และสั่งอาหารเพิ่มโดยมีปูอัดด้วย ซึ่งสั่งมา 2 ถาด มีถาดหนึ่งที่มันมีเมือกและรสชาติเปรี้ยว จึงเรียกพนักงานมาบอกและเช็กบิลเลยเพราะอารมณ์เสีย

จากนั้นตนเดินมารอที่เคาน์เตอร์เช็กบิล ผู้จัดการร้าน ได้นำคลิปวงจรปิดมาให้ตนดูว่าทิชชู่มาจากตนเองที่เป็นคนคีบลงหม้อชาบู ตนจึงขอโทษทางร้านไป และแจ้งว่ารอบที่แล้วน้ำเก๊กฮวยมีรสชาติเปรี้ยว ทางร้านจึงรับผิดชอบโดยการคิดเงินแค่ 2 คน ลดไป 1 คน ซึ่งตนไม่ได้มีเจตนาที่จะโกงร้าน และไม่รู้ว่าเป็นความผิดพลาดของตัวเอง ส่วนเรื่องปูอัดทางร้านไม่ได้แจ้งกับตนตอนที่เช็กบิลแต่มาแจ้งในเพจ หลังจากที่ตนออกมาจากร้านแล้วว่าปูอัดรสชาติปกติ ตนไม่ได้บอกว่าอาหารไม่มีคุณภาพแต่สั่งมา 2 ถาดมันมีทั้งที่กินได้และกินไม่ได้ ตนมาทานอาหารที่ร้านนี้หลายครั้งแล้ว ถ้าตนกลัวจะเสียค่าปรับคงเดินออกไปจากร้านไม่รอเช็กบิล ซึ่งค่าปรับในหม้อคาดว่าน่าจะหลายบาท ตนยังยืนว่ายังยืนรอเช็กบิลและออกมายืนคุยนอกร้านต่อ

น.ส.อีฟ กล่าวต่ออีกว่า ตนเพิ่งเห็นแถลงการณ์ของทางร้าน ตนพยายามติดต่อกับทางร้านตั้งแต่รู้ข่าวเมื่อวาน (4 เม.ย.) เพื่อพูดคุย และตนได้ขอโทษในร้านไปแล้วคิดว่าจะจบแล้วไม่จบ ซึ่งตนก็ไม่ได้ไปโพสต์ว่าร้านใดๆ ตนยอมรับผิดตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ตอนนี้ตนได้รับผลกระทบกับเรื่องงานเนื่องจากตนทำงานเป็น รปภ. และเป็นการจ้างรายวัน ตนถูกยกเลิกงานที่รับไว้ คนรอบข้างที่ไม่ได้มากินด้วยในวันนั้นก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วยเพราะมีคนทักไปต่อว่าทางเฟซบุ๊ก กับเพื่อนที่ทำงาน มีคอมเมนต์ต่อว่าตนเป็นครอบครัวขอทาน ซึ่งตนไม่ได้ใส่ใจ เพียงแต่มันมีผลกระทบกับเรื่องงาน สังคมไม่มีใครมาถามความจริงจากตน อยากขอความเห็นใจจากสังคม ตอนนี้ตนเครียดมากและมีปัญหาเรื่องงาน ต้องหากินใช้วันต่อวัน ตนแค่อยากมากินและใช้บริการกับทางร้านไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เกิดเรื่อง ตอนนี้คงทำได้แค่รอสำนักงานใหญ่ของร้านติดต่อมา