สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ว่า กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ เรื่องการถอนกำลังทหารบางส่วน ออกจากภูมิภาคทางตอนใต้ของฉนวนกาซา รวมถึง เมืองข่าน ยูนิส ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่บางส่วนจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จะยังคงประจำการอยู่ในพื้นที่ต่อไป


ทั้งนี้ แหล่งข่าวในกองทัพอิสราเอลให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่าการถอนกำลังดังกล่าวเกิดขึ้นด้วยเหตุผลว่า “ไม่มีความจำเป็นต้องประจำการ อยู่ในพื้นที่ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติการ” และประชาชนซึ่งเคยอาศัยอยู่ที่เมืองข่าน ยูนิส และต้องอพยพออกไปจากพื้นที่ สามารถเดินทางกลับมายังภูมิลำเนาได้แล้ว


อย่างไรก็ตาม นายจอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ให้ความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว “เป็นเพียงการสับเปลี่ยนกำลังพล” ท่ามกลางความวิตกกังวลของหลายฝ่าย ว่าคือสัญญาณของการเตรียมยกพลเข้าสู่เมืองราฟาห์แทนหรือไม่


ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวถึงสถานการณ์สงครามในฉนวนกาซา ที่เป็นการสู้รบกับกลุ่มฮามาส และยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2566 ว่า “เหลืออีกเพียงก้าวเดียวจะถึงชัยชนะ” แต่ยอมรับว่า “เกิดความสูญเสียมหาศาลระหว่างทาง” และเน้นย้ำว่า จะไม่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาส จนกว่าอีกฝ่ายจะปล่อยตัวประกันที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด หลังทั้งสองฝ่ายเคยหยุดยิงกันมาแล้วครั้งหนึ่ง นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปลายเดือน พ.ย.-ต้นเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว


อนึ่ง การเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลประมาณ 1,170 ราย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 แต่ปฏิบัติการโจมตีโต้กลับของกองทัพอิสราเอลซึ่งเกิดขึ้นนับจากนั้น ทำลายฉนวนกาซาราบเป็นหน้ากลอง และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 33,000 ราย

ขณะเดียวกัน ยังคงมีตัวประกันทั้งที่เป็นชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติ ถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซาอีก 129 คน แต่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอลเชื่อว่า “อย่างน้อย 34 คน” เสียชีวิตแล้ว.

เครดิตภาพ : AFP