เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก แถลงข่าวผลการปฏิบัติงานกองทัพบกประจําปี 2564 และแนวทางการพัฒนากองทัพบกตามห้วงระยะเวลา (1 ต.ค. 63–30 ก.ย. 66) จากสถานการณ์ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกและในประเทศไทย โดยเฉพาะภัยคุกคามที่เกิดจากโรคอุบัติใหม่ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 กองทัพบกยังได้จัดตั้ง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก เพื่อสนับสนุนการอํานวยแก้ปัญหาต่างๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและเข้าดูแลช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยการป้องกันแนวชายแดนของประเทศไทย โดยใช้ศักยภาพของยุทโธปกรณ์ เครื่องมือและกําลังพลสกัดกั้นการนําเข้าเชื้อจากต่างประเทศในทุกช่องทาง ใช้กำลังพลกว่า 24,700 นาย การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อลดการเดินทางข้ามเขตพื้นที่ของประชาชน โดยมีกําลังพลกว่า 3,000 นายต่อวัน พร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามจํานวน 29 แห่ง สนับสนุนรัฐบาล และให้โรงพยาบาลของกองทัพบกทั้ง 37 แห่ง สนับสนุนส่งผู้ป่วยกลับผู้ภูมิลําเนาโดยใช้รถยนต์ทุกประเภทและอากาศยานของกองทัพ เช่น เครื่องบินลําเลียงขนาดกลางแบบ 295 รวมถึงจัดตั้งโรงพยาบาลสนามศูนย์คัดกรองกองทัพบก จํานวน 2 แห่ง คือ สโมสร ทบ. และ มทบ.11 ตรวจคัดกรองได้วันละ 1,000 คนต่อแห่ง
พล.อ.สันติพงศ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้นนั้น กองทัพบก ยังคงดําเนินการพัฒนาองค์กร ตามแผนพัฒนากองทัพบกตามห้วงระยะเวลา (1 ต.ค.63–30 ก.ย.66) เพื่อให้เป็นหน่วย รูปแบบ “เบาประหยัดมีความคล่องตัวสูงและมีประสิทธิภาพ” โดยในปีงบประมาณ 2564 ยกเลิกหรือลดจํานวนโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ราคาสูงจากต่างประเทศให้มากที่สุด และสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศมาใช้มากขึ้น ลดการใช้งบประมาณสําหรับกองทัพบก เพื่อนําไปใช้บรรเทาความเดือนร้อนประชาชนด้านอื่น ๆ.