วันที่ 14 เมษายน 2567 เวลา 16.00 น. บริเวณถนนราชดำต่อเนื่องถึงถนนข่าวสาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์บริเวณถนนราชดำเนิน ต่อเนื่องถนนตะนาว ถนนรามบุตรี ถนนจักรพงษ์ ถนนข้าวสาร ประชานเริ่มหลั่งไหลเข้ามาเล่นน้ำยาวตลอดทั้งเส้นถนน โดยจากการสอบถามเข้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรอกแยกคอกวัว ระบุว่า นับตั้งแต่ช่วงเวลา 13.00 น. ที่เริ่มเปิดให้เข้าเล่นน้ำในบริเวณถนนดังกล่าว พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เข้าผ่านจุดคัดกรองประมาณ 6,212 คน นับเป็นจำนวนประมาณ 3,000 คนต่อชั่วโมง 

ทำให้ในช่วงเวลาตั้งแต่ 13.00-22.00 น. ที่เปิดให้เล่นน้ำ จะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เข้ามาเล่นน้ำกว่า 30,000 คน ซึ่งยังไม่รวมช่วงเวลาพีคประมาณ 19.00-21.00 น. ด้วย ที่ปกติจะมีคนเข้ามาเล่นน้ำในอัตราที่มากกว่าช่วงระหว่างวัน โดยหากรวมจุดคัดกรองทั้ง 3 จุด คาดการณ์ว่าจะมีคนเข้าเล่นน้ำสงกรานต์ประมาณ 90,000 คน

ทั้งนี้ บริเวณถนนข้าวสาร มีนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและคนไทยเล่นน้ำร่วมกันอย่างสนุกสนาน ทั้งปืนฉีดน้ำ และขันสาดน้ำด้วย โดยตลอดเส้นถนนที่เชื่อมกันนี้ ยังคงห้ามไม่ให้เล่นแป้งและห้ามนำแป้งผ่านจุดคัดกรอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเข้มแข็ง จึงพบว่ามีการวางขันหรือถังใส่แป้งทิ้งไว้หน้าจุดคัดกรองเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อเข้ามาเล่นน้ำ เริ่มตั้งแต่แยกคอกวัวเข้ามา จะมีการเล่นแป้งกันยาวไปถึงถนนข้าวสาร รวมถึงมีร้านจำหน่ายแป้งดินสอพองไว้ทั้งสองแผงข้างทางด้วย 

ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ระบุว่า ส่วนนี้เป็นข้อตกลงระหว่างเอกชน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำหน้าที่เฉพาะในจุดคัดกรองเท่านั้น โดยมีการตั้งจุดคัดกรอง 3 จุด แบ่งให้ออกได้ 1 ช่องทาง เพื่อระบายคนออกได้อย่างเหมาะสม ป้องกันความแออัดของกลุ่มคนกระจุกตัวหนาแน่นเกินไป

ด้านนายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวว่า การเล่นน้ำสงกรานต์ปี 2567 คึกคักมาก โดยวันนี้ (14 เมษายนนี้) คึกคักมากกว่าเมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่เห็นภาพความคึกคักของการเล่นน้ำวันแรก อยากเข้ามาร่วมเล่นน้ำในวันที่เหลือมากขึ้น

โดยพบว่ามีต่างชาติสัดส่วนประมาณ 40% คนไทย 60% คาดการณ์ว่าเฉพาะบริเวณถนนข้าวสารและถนนข้างเคียงที่เดินเชื่อมต่อกันนี้ จะมีประชาชนเข้าเล่นน้ำเกิน 1 แสนคนแน่นอน หลังจากวันแรกมีประมาณ 8-9 หมื่นคน คิดเป็นอัตราการใช้จ่ายอยู่ประมาณ 100 ล้านบาท ประเมินจากการใช้จ่ายของคนไทยประมาณ 1,000 บาทต่อคน นักท่องเที่ยวต่างชาติ 2,000-3,000 บาทต่อคน จำนวนคน 1 แสนคนเป็นอย่างต่ำ

”สงกรานต์ปีนี้คึกคักมาก โดยเฉพาะเมื่อมีการจัดงานบริเวณสนามหลวงด้วย ที่มีทั้งโซนเล่นน้ำ การแสดงคอนเสิร์ต ดนตรีที่เข้าชมได้ฟรี ไม่ได้มีเพียงการจัดแสดงวัฒนธรรมเท่านั้น ทำให้มีประชาชนเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เข้าถึงช่วงอายุที่หลากหลาย ทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงวัยด้วย เมื่อความคึกคักที่ต่อเนื่องกันมา ทั้งสนามหลวง ถนนราชดำเนิน ถนนข้าวสาร ก็ทำให้บรรยากาศเล่นน้ำสงกรานต์ปีนี้ดูดีมาก“