เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ติดตามความพร้อมการบริการจราจรทางอากาศของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) โดยได้รับรายงานว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ของเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 67 มีสถิติเที่ยวบินเพิ่มสูงขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 66 ซึ่ง บวท. ได้เตรียมมาตรการรองรับ และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเดินทางทางอากาศตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมความพร้อมวิธีปฏิบัติการให้บริการจราจรทางอากาศให้สามารถรองรับปริมาณเที่ยวบินได้เต็มขีดความสามารถ บริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศให้ปลอดภัย ลดการล่าช้า และลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเพลิงของเที่ยวบินในช่วงเวลาที่มีปริมาณจราจรหนาแน่น

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้จัดเตรียมความพร้อมด้านอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน และความพร้อมด้านระบบอุปกรณ์ รวมถึงสั่งการให้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อบูรณาการการทำงานให้ประชาชนได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม มีการรายงานสถิติเที่ยวบินระหว่างประเทศของเดือน มี.ค. 67 พบข้อมูลว่า เที่ยวบินจากต่างประเทศ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ และไต้หวัน เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะไต้หวัน เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงก่อนโควิด จึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย

ด้านนายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า จ.เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก เนื่องจากมีต้นทุนทางวัฒนธรรม มีประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นที่งดงาม สามารถผลักดันจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งเทศกาล (Festival City) อีกทั้งการเปิดให้บริการสนามบินเชียงใหม่ ขยายเวลาเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ส่งผลให้มีเที่ยวบินจำนวนมาก ตอบสนองความต้องการเที่ยวบินแบบ Red eye flight ซึ่งนักท่องเที่ยวเดินทางกลางคืน และถึงสนามบินเพื่อเที่ยวต่อในเวลาเช้ามืด รวมถึงการขับเคลื่อนบริการการเดินอากาศอันทันสมัย รองรับการก่อสร้างสนามเชียงใหม่แห่งใหม่ “สนามบินล้านนา” ซึ่งจะเป็นจุดแข็งของภาคเหนือ เชื่อมโยงวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ล้านนา เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

นายณพศิษฏ์ กล่าวต่อว่า บวท. ได้เตรียมเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเดินอากาศเพื่อรองรับปัจจัยดังกล่าว โดยปรับปรุงโครงสร้างห้วงอากาศ (Airspace) ของ สนามบินเชียงใหม่ สนามบินลำปาง และสนามบินล้านนา ให้สามารถรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้น รวมถึงจัดทำเส้นทางบินแบบคู่ขนาน (Parallel Routes) ทางด้านเหนือ ไปยังสนามบิน เชียงใหม่ เชียงราย และเส้นทางบินแยกย่อยไปยังสนามบินต่างๆ ในภาคเหนือ รวมถึงการเชื่อมต่อเส้นทางบินระหว่างประเทศ เพื่อรองรับเที่ยวบินจากประเทศจีน ซึ่งจะทำให้สามารถเชื่อมโยงไปยังเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของจีน เช่น คุนหมิง กุ้ยหยาง เฉิงตู เทียนฟู ฉงชิง ซีอาน ด้านตะวันออก ได้จัดทำเส้นทางบินคู่ขนานระหว่างประเทศรองรับเที่ยวบินจากกัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย ซึ่งจะทำให้โครงสร้างพื้นฐานการเดินอากาศมีศักยภาพ พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค.