จากกรณีพบกากแคดเมียม สารอันตราย ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ใน ต.หนองบัวใต้ อ.เมือง จ.ตาก เล็ดลอดไปยังจังหวัดสมุทรสาคร ชลบุรีและกรุงเทพมหานคร ทำให้ประชาชนจำนวนมาก วิตกกังวลกับผลกระทบที่จะได้รับจากสารแคดเมียม ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ห้ามเคลื่อนย้ายสารแคดเมียมและเข้าใกล้บริเวณที่กักเก็บ เนื่องจากเป็นสารอันตรายต่อสุขภาพ และเตรียมส่งกลับสารแคดเมียมทั้งหมด กลับมายังถิ่นกำเนิดที่ จ.ตาก แต่ก็ถูกชาวบ้านในพื้นที่ต่อต้านคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับการนำกลับมาฝังกลบไว้ที่เดิม เนื่องจากเกรงกลัวอันตรายที่จะได้รับผลกระทบจากสารพิษอันตราย

คืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 เม.ย. นายอานันท์ ฟักสังข์ ผู้อำนวยการกองวิศวกรรมบริการ รักษาราชการแทน รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจสอบสถานที่กักเก็บสารแคดเมียม บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่เลขที่ 94 หมู่ 1 ถนนพหลโยธิน กม.409-410 ต.หนองบัวใต้ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งเป็นโรงงานกักเก็บกากอุตสาหกรรม สารแคดเมียม เป็นต้นทางของการขนสารแคดเมียมไปที่ จ.สมุทรสาคร จ.ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจดูความพร้อมของสถานที่ ก่อนที่จะนำสารแคดเมียมกลับมายังถิ่นกำเนิด จ.ตาก โดยมีนายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วยหัวหน้ากลุ่มพื้นฐานและการเหมืองแร่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตาก ร่วมตรวจพื้นที่ โดยมีชาวบ้านทั้ง 7 หมู่บ้าน ใน ต.หนองบัวใต้ ได้ยื่นหนังสือต่อนายอานันท์

นายอานันท์ เปิดเผยว่า จ.ตาก เป็นถิ่นกำเนิดของสารแคดเมียม และเป็นต้นทางของการแพร่กระจายไปยัง จ.สมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร สารแคดเมียมที่ออกไปนั้น จากการตรวจสอบมีทั้งหมด 13,800 ตัน ขุดขึ้นมาจากบ่อกักเก็บ 2 บ่อ ดังนั้นการนำมาไว้ที่เดิมคงไม่มีปัญหาอะไร จะต้องมีการปรับปรุงซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย กลับมาใช้งานได้ดีดังเดิม ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบความพร้อมของบ่อกักเก็บทั้งสองแห่งให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ สามารถป้องกันการรั่วไหลของสารแคดเมียม ไม่ให้ออกไปสู่ภายนอก ต้องมีการป้องกันอย่างดีไม่ให้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นทางอากาศและทางน้ำ ต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ ก่อนฝังกลบและหลังฝังกลบ และมีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสภาพแวดล้อม ป้องกันสารแคลเซียมฟุ้งกระจายไปยังที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชุมชนพื้นที่การเกษตรและแม่น้ำ ลำคลอง ให้มีความปลอดภัยสูงสุด

นายอานันท์ กล่าวต่อว่า สำหรับวันนี้ ตนและคณะ มาลงตรวจสอบพื้นที่การเตรียมความพร้อมบ่อฝังกลบ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบความแข็งแรงปลอดภัยของบ่อ ร่วมกับโยธาธิการจังหวัดตาก และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะตรวจสอบพื้นบ่อที่ปูด้วยแผ่นพลาสติก HDPE หนา 1.5 มม. จำนวน 2 ชั้น ว่าอยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีการฉีกขาด สามารถป้องกันการรั่วไหลของกากได้ รวมทั้งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของพื้นปูนและขอบบ่อในภาพรวม หากไม่มั่นคงแข็งแรง ก็จะสั่งการให้มีการปรับปรุงให้เรียบร้อยโดยเร็ว ทั้งนี้ ในระหว่างการฝังกลบกากแคดเมียม จะต้องมีการสเปรย์น้ำที่บ่อฝังกลบระหว่างเคลื่อนย้ายกากลงหลุม เพื่อกันการแพร่กระจายของฝุ่นผง และการปรับเสถียรในบ่อฝังกลบ เมื่อนำกากลงบ่อจนหมดแล้ว จะทำการเกลี่ยกากในบ่อให้เรียบแล้วเททราย จากนั้นปูทับด้วยพลาสติก HDPE อีกชั้น ก่อนที่จะเทคอนกรีตเสริมเหล็กปิดบ่อเป็นขั้นตอนสุดท้าย

นายอานันท์ กล่าวอีกว่า การขนย้ายสารแคดเมียม ซึ่งเป็นสารอันตราย ต้องขนย้ายด้วยความระมัดระวัง ต้องใช้รถที่จัดเก็บอย่างมิดชิด ระหว่างขนย้ายต้องไม่มีการฟุ้งกระจายของผงฝุ่น แคดเมียม ซึ่งจะปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมโดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบระหว่างขนย้าย รถทุกขบวน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน ตั้งแต่ต้นทางขนย้ายจนสิ้นสุดกระบวนการฝังกลบ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานทุกขั้นตอนด้วยความระมัดระวัง และความปลอดภัยอย่างดีที่สุด การทำงานทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความโปร่งใส

นางปาริชาด อ่อนละม่อม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านห้วยทราย 2 ต.หนองบัวใต้ กล่าวว่า ชาวบ้านมีความเป็นห่วงในความปลอดภัย สารแคดเมียม ซึ่งเป็นสารอันตราย เนื่องจากชาวบ้านตำบลหนองบัวใต้ ที่อยู่รายล้อมใกล้กับหลุมฝังกบแคดเมียม จำนวนมาก และที่ผ่านมาเคยเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ชาวบ้านไม่ต้องการให้นำกลับมาไว้ที่เดิม ให้บริษัทไปแปรรูปหรือมีความสามารถในการนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มจะดีกว่านำกลับมาฝังกลบที่เดิม ซึ่งเป็นอันตรายกับชุมชน แล้วต้องการให้หน่วยราชการที่เป็นกลาง มีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ในด้านความปลอดภัยของสถานที่กักเก็บ ว่ามีความสมบูรณ์หรือต้องซ่อมแซมในส่วนชำรุดเสียหาย และให้มีการตรวจสอบ EIA ทุกขั้นตอน ให้ชาวบ้านเป็นส่วนร่วมในการตรวจสอบการทำงานของบริษัทที่รับผิดชอบ เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน

“ถ้าเป็นไปได้ขอไม่เอากลับมาสารแคดเมียม เพื่อความสบายใจของชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับบ่อกักเก็บสารอันตราย โดยชาวบ้านจะคัดค้านการขนกลับมาของสารแคดเมียมอย่างสงบ โดยไม่ใช้ความรุนแรง และจะไม่มีการปิดถนนทางเข้าบ่อกักเก็บสารแคดเมียมตามที่เป็นข่าว” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 กล่าว

นายคริษฐ์ ปานเนียม สส.ตาก เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การขนย้ายกลับมาของสารแคดเมียม ทุกขั้นตอนประชาชนต้องมีส่วนร่วมและจะต้องทำ EIA ประชาชนทุกขั้นตอน เพราะคือความปลอดภัยของประชาชน ที่ผ่านมาการขนย้ายจากถิ่นกำเนิด ประชาชนไม่ทราบข่าว มาทราบข่าวอีกทีทางสื่อต่างๆ การขนกลับมาประชาชนยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยของสารอันตราย เพราะที่นี่คือบ้านของเขา กลัวมลพิษกับสภาพแวดล้อม ในส่วนของตนเองจะต้องดำเนินคดีกับบริษัทที่รับผิดชอบ ก็ขอให้ทุกภาคส่วนทำงานด้วยความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ และบริษัทที่เกี่ยวข้อง จะไม่มีการลักลอบขนสารแคดเมียมออกไปอีก.