สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ว่าสำนักงานกิจการกฎหมายของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ส่งหนังสือที่ลงนามโดยนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ถึงนายกรัฐมนตรีอาบีย์ อาเหม็ด อาลี ผู้นำเอธิโอเปีย กระทรวงการต่างประเทศเอธิโอเปีย และสำนักงานคณะผู้แทนถาวรเอธิโอเปียประจำนครนิวยอร์ก มีเนื้อหาสำคัญว่า การประกาศให้บุคคลใดก็ตาม มีสถานะเป็น "บุคคลไม่พึงปรารถนา" หรือ "ไม่เป็นที่ต้อนรับ" ไม่มีผลครอบคลุมในทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ยูเอ็น
ขณะที่นายฟาร์ฮัน ฮาค โฆษกยูเอ็น กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า กูเตร์เรสได้สนทนาทางโทรศัพท์สายตรงกับอาบีย์ในเรื่องนี้ และเตือนอีกฝ่ายว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ และไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากการประกาศสถานะบุคคลไม่พึงปรารถนา มีผลกับเฉพาะ "เจ้าหน้าที่รัฐบาล" หรือเป็นการใช้คำสั่ง "ระหว่างรัฐต่อรัฐ" แต่ยูเอ็น "ไม่ได้มีสถานะเป็นรัฐ"
อย่างไรก็ตาม สหประชาชาติยังไม่มีท่าทีอย่างชัดเจน ว่าคณะเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในรายชื่อจะเดินทางออกจากเอธิโอเปียตามคำสั่งของรัฐบาลแอดดิสอาบาบาหรือไม่ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของเอธิโอเปียประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่าเจ้าหน้าที่อาวุโสของยูเอ็น 7 คน รวมถึง ผู้อำนวยการกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ( ยูนิเซฟ ) ประจำเอธิโอเปีย และผู้อำนวยการสำนักงานเพื่อการประสานงานกิจการมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ( โอซีเอชเอ ) ประจำเอธิโอเปีย ต้องเดินทางออกภายใน 72 ชั่วโมง เนื่องจาก "แทรกแซง" กิจการภายในของเอธิโอเปีย ที่ตอนนี้เป็นหนึ่งในประเทศทรงอิทธิพลที่สุดในแอฟริกา
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ ยูเอ็นเรียกร้องการเปิดเส้นทางปลอดภัยสู่ภูมิภาคทิเกรย์ เพื่อให้มีการลำเลียงและส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่พลเรือนในพื้นที่ ซึ่งกำลังอดอยากเนื่องจากการสู้รบที่ยืดเยื้อตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ระหว่างกองทัพเอธิโอเปียกับแนวร่วมปลดปล่อยชาวทิเกรย์ ( ทีพีแอลเอฟ ) ที่ปกครองพื้นที่แห่งนี้มานานหลายทศวรรษ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES