ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 9 ประจำปี 2567 โดยมีนายธีรศักดิ์ โฉมสิริ รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ท.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ พญ.เจรียง จันทรกมล ประธานนักศึกษาหลักสูตร ปธพ. ดร.นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ประธานโครงการแพทย์อาสา คณะนักศึกษาหลักสูตร ปธพ.รุ่นพิเศษและคณะนักศึกษา ปนพ.1 นางนลินี ด่านชัยวิจิตร ประธานผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวพระนครศรีอยุธยา นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมประชุม

นายนิวัฒน์ เปิดเผยว่า จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกับมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ แพทยสภา สถาบันมหิตลาธิเบศร สถาบันพระปกเกล้า โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นพิเศษและนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้นำทางการแพทย์ (ปนพ.1) ในการจัด “โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 9 ประจำปี 2567 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ขึ้นในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 17-19 พ.ค. 67 ณ รพ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งในปีนี้ โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 ได้เลือก จ.พระนครศรีอยุธยา ให้เป็นที่ตั้งหน่วยแพทย์อาสาฯ ที่นับเป็นหน่วยแพทย์ขนาดใหญ่ระดับประเทศ ระดมแพทย์จากมหาวิทยาลัย กระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง และโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ มาตรวจรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียง ด้วยบริการที่ครบถ้วนรอบด้าน โดยเปิดให้บริการ 32 คลินิก เพื่อมอบโอกาสการเข้าถึงการรักษา จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เบ็ดเสร็จจบในขั้นตอนเดียวในพื้นที่ อันเป็นการช่วยลดการเดินทาง ลดระยะเวลาของผู้ป่วยที่ต้องรอคอยยาวนาน นอกจากนี้ยังนับเป็นเกียรติของชาวพระนครศรีอยุธยา ที่จะได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพต้อนรับคณะอาจารย์แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ที่มาจากทุกพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้ชาวพระนครศรีอยุธยามีโอกาสได้เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ

นายนิวัฒน์ กล่าวต่อว่า จ.พระนครศรีอยุธยา ระดมกำลังจากทุกหน่วยงานทั้งภาคราชการ ภาคประชาสังคม ประชาชนจิตอาสา จากหลายเหล่า หลากสังกัดมาร่วมกันเป็นจิตอาสา เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วย และเป็นโอกาสของชาวพระนครศรีอยุธยาที่จะได้ร่วมกิจกรรมพัฒนาด้านสุขภาพ ขยายโอกาสในการรับการตรวจรักษา และลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้ด้วยตนเอง โดยเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมและสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อให้เกิดเครือข่ายการดำเนินงานทางด้านสาธารณสุขที่เข้มแข็งและยั่งยืน เพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดีของประชาชนต่อไป