มร.เพียซ เอิง กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของนินจาแวน ประเทศไทย ผู้นำบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่าการทำงานที่บ้าน (Work From Home) เป็นต้นทุนแฝงมักจะส่งผลต่อสุขภาพจิต การแยกตัวจากเพื่อนร่วมงาน ความกดดันที่เพิ่มขึ้นของการทำงานคนเดียว ตลอดจนระยะเวลาที่ต้องอยู่บ้านในแต่ละวันที่ดูเหมือนจะยาวนาน อาจส่งผลให้เกิดความเครียดที่ไม่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่มีประสบการณ์หรือผู้ที่เพิ่งจบการศึกษาที่กำลังก้าวเข้าสู่การเริ่มต้นชีวิตการทำงาน ดังนั้นนินจาแวน ได้จัดการให้คำปรึกษาและบำบัดแบบออนไลน์โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน เพื่อให้พนักงานมีช่องทางในการระบายความเครียดและความวิตกกังวลในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ว่าการ Work from home จะได้รับการยอมรับจากพนักงานของนินจาแวน ประเทศไทย แต่การใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารอาจส่งผลลบและเป็นอุปสรรคต่อการทำงานร่วมกันระหว่างบุคคลและทีม ที่สำคัญส่งผลให้เกิดความเหงาจากการที่ต้องทำงานเพียงลำพัง นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการเรียนรู้และการพัฒนาของพนักงานอีกด้วย
นอกเหนือจากการสนับสนุนด้านสุขภาพแล้ว ยังช่วยเหลือค่าใช้จ่ายด้านไลฟ์สไตล์ เพื่อช่วยให้พนักงานรักษาสมดุลชีวิตการทำงานและสุขภาพที่ดี ในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้ให้เงินสมทบค่าไฟฟ้า รวมถึงค่าสันทนาการต่างๆ เช่น ค่าสมาชิก Netflix, Spotify, Youtuber premier, Tinder gold รวมถึงค่าสมาชิกฟิตเนส มาตรการชดเชยและสวัสดิการต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ตอบแทนกับพนักงาน
มร.เพียซ เอิง กล่าวต่อว่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเติบโตขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการซื้อที่ปรับตัวให้เข้ากับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ได้วางแผนที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
“วิธีที่เราสื่อสารกับพนักงานเก่าและพนักงานใหม่แสดงให้เห็นว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด โดยแสดงผ่านสวัสดิการที่เรามีให้ และสิ่งนี้ช่วยให้เราสร้างความไว้วางใจกับพนักงาน เพื่อให้มั่นใจว่าการเป็นส่วนหนึ่งของนินจาแวน” เพียซ เอิง กล่าว