มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ให้สัมภาษณ์ฟีฟ่า ในประเด็นต่างๆ ตอนหนึ่งพูดถึงเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่บุกเสมอ เกาหลีใต้ 1-1 ก่อนกลับมาแพ้ในบ้าน 0-3 ว่า การที่บุกไปเสมอได้ เพราะมีบทเรียน จากเกมอุ่นเครื่องที่บุกแพ้ ญี่ปุ่น แต่การเสมอโสมขาว ทำให้เกิดความคาดหวังในเกมเหย้ามากไป ผู้เล่นเริ่มดุดันจนเกินไป และเริ่มเสียสมาธิ ตนต้องไตร่ตรองในเรื่องนี้ ตอนเสมอ เกาหลีใต้ ได้ มีการพูดถึงการเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก แต่ในความจริงคือ ไทย ยังห่างจาก เกาหลีใต้ หรือ ญี่ปุ่น เมื่อดูอันดับโลก แต่แม้มีโอกาสน้อย ก็ต้องทำให้เต็มที่
ส่วนคำถามว่า จากการได้พาทีมไทย ปะทะทั้งญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มาแล้ว คิดว่าจะพาไทยไปจุดสูงสุดในอนาคตได้ไหม อิชิอิ กล่าวว่า จะไม่เกิดในชั่วข้ามคืน คิดว่าไทยทำตามรอย ญี่ปุ่น ได้ การยกระดับไทยลีกเป็นสิ่งจำเป็น แต่การมีโค้ช และเจ้าของสโมสรที่เข้าใจภาพรวมของการพัฒนาฟุตบอลก็สำคัญเช่นกัน
เมื่อถามว่า การเป็นโค้ชญี่ปุ่นของไทย คนที่ 2 ต่อจาก อากิระ นิชิโนะ ทำให้เกิดความท้าทายหรือไม่ อิชิอิ กล่าวว่า นิชิโนะ โชคไม่ดีจริงๆ ที่เป็นโค้ชช่วงการระบาดของ โควิด-19 ทำให้มีเรื่องหลายๆ ด้าน ส่วนตัวแล้ว ได้สร้างการมีส่วนร่วมกับสโมสรในประเทศ ทั้งไทยลีก 1-3 ด้วยการมองถึง ฟุตบอลโลก 2026 ต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ทุกคนรวมตัวกัน และทำเพื่อส่วนรวม
อิชิอิ ทิ้งท้ายว่า ใน 2 เกมสุดท้าย ของฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เดือน มิ.ย. เยือนจีน และกลับมาเล่นในบ้านพบ สิงคโปร์ จำเป็นต้องชนะทั้ง 2 เกม ดังนั้นจึงต้องวิเคราะห์คู่แข่งอย่างละเอียดที่สุด.
