เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 24 เม.ย. ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ ประตูรถกระบะล็อกอัตโนมัติ มีเด็กป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงติดอยู่ภายในรถยนต์จอดอยู่ตรงข้ามธนาคารกสิกรไทย ถนนโพศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงประสานอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะแบบ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดติดเครื่องเปิดแอร์อยู่ โดยมีพ่อและแม่เด็กยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ข้างรถด้วยใจจดใจจ่อ ตรวจสอบภายในรถบริเวณเบาะหลังพบ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 9 ขวบ ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นอนอยู่ โดยประตูรถล็อกทั้ง 4 บาน เจ้าหน้าที่เร่งใช้ลวดสอดบริเวณกระจกปลดล็อกระตู ใช้เวลาประมาณ 5 นาที สามารถเปิดล็อกประตูได้ ท่ามกลางความดีใจของพ่อแม่เด็ก
พ่อและแม่ น้องเอ เล่าว่า ครอบครัวมีกันอยู่ 4 คน พ่อ แม่ ลูก 2 คน น้องเอ เป็นคนโต ซึ่งพิการกล้ามเนื้ออ่อนแรงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และลูกสาวคนเล็กอีกคน ก่อนเกิดเหตุพาน้องเอ ไปหาหมอตามนัด เสร็จแล้วได้พากันขับรถมาจอดตรงข้ามกับธนาคารที่เกิดเหตุเพื่อหาซื้อของกลับไปขาย เมื่อจอดรถเสร็จพวกตนได้ลงไปหาซื้อของ ให้ลูกสาวดูแลพี่ชายบนรถโดยติดเครื่องยนต์และเปิดแอร์ไว้ให้ เพราะข้างนอกอากาศร้อนมาก แต่ระหว่างเลือกของอยู่ ลูกสาวได้วิ่งลงมาหาก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะจุดที่เลือกของมองเห็นรถอยู่
ทั้งสองเล่าอีกว่า พอซื้อของเสร็จพากันกลับมาที่รถก็ต้องรู้สึกตกใจ เพราะพบว่าประตูล็อกหมดทั้ง 4 ด้าน จึงรีบดูว่ารถยังติดเครื่องอยู่หรือไม่ พบว่ายังติดเครื่องอยู่จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดังกล่าว ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว เพราะพวกตนกลัวว่าถ้ารถดับแล้วลูกจะเป็นอันตราย จึงอยากฝากเตือนคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย ถ้าเป็นไปได้ไม่ว่าจะมั่นใจในอุปกรณ์หรือการกระทำที่คิดว่าทำเป็นปกติทุกวันก็อย่าไว้ใจเพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้ แล้วอาจไม่โชคดีเหมือนอย่างลูกชายพวกตน
