สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง กล่าวปาฐกถา ที่มหาวิทยาลัยปารีส หรือ ซอร์บอนน์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่าสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปีแล้ว “ยังไม่มีสิ่งใดสามารถยับยั้งได้” และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถทราบได้อย่างชัดเจน ว่า “ข้อจำกัด” ของรัสเซียอยู่ตรงจุดใด
ผู้นำฝรั่งเศสเรียกร้องกลุ่มประเทศในยุโรป จัดทำ “แผนยุทธศาสตร์กลาโหมที่เชื่อถือได้” และสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง “เพื่อความอยู่รอด” มากกว่าการพึ่งพิงสหรัฐฝ่ายเดียว
ขณะเดียวกัน มาครงกล่าวถึงการที่ทั้งสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก “ไม่เคารพกฎเกณฑ์การค้าระหว่างประเทศ” ด้วยเหตุนี้ ผู้นำฝรั่งเศสจึงเสนอให้สหภาพยุโรป (อียู) ปรับเปลี่ยนกฎระเบียบการค้าของตัวเองเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวว่า หากยุโรปไม่ปรับตัวให้ทันและสอดคล้องกับ “ความเสี่ยงและกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป” ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ภูมิภาคแห่งนี้ “จะล้มหายตายจาก” ไปจากโลก
อนึ่ง เนื้อหาโดยรวมของสุนทรพจน์ครั้งนี้ ยังเป็นไปในทางเดียวกับสุนทรพจน์ที่มาครงเคยกล่าว เมื่อปี 2560 เน้นไปที่ “ความเป็นอิสรภาพ” ทางเศรษฐกิจและกลาโหม แม้เยอรมนีเคยแสดงความไม่พอใจบ้าง แต่ผู้นำฝรั่งเศสยืนกรานว่า ต้องการให้ยุโรปหลุดพ้นจาก “ความคลุมเครือทางยุทธศาสตร์”
นอกจากนั้น ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวถึงการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรป ในวันที่ 9 มิ.ย. นี้ ด้วยการวิจารณ์พรรคฝ่ายขวาของหลายประเทศในยุโรป “ต้องการอยู่ร่วมหลังคาเดียวกัน” กับฝ่ายซ้ายและสายกลาง “แต่ไม่เคยคิดแบ่งเบาค่าใช้จ่าย และไม่เคยเคารพกฎเกณฑ์”.
เครดิตภาพ : AFP