เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็น รมว.สาธารณสุข ว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูง ส่วนการที่เดินทางเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (29 เม.ย.) เพื่อมาขอบคุณและร่ำลาข้าราชการสำนักนายกรัฐมนตรีที่ทำงานร่วมกันมาตลอด และได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี รวมถึงมาเก็บของที่ห้องทำงาน เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีคนอื่น ได้มาใช้ห้องทำงานต่อไป ทั้งนี้ ตนได้พูดคุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต รมว.สาธารณสุข และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไร จากกรณีที่มีการสลับเก้าอี้รัฐมนตรี ไม่มีเพราะรักกันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าหลายคนมองว่าตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขเป็นเก้าอี้อาถรรพณ์เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีบ่อย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และตนไม่ได้คิดว่าจะอยู่นานหรือไม่นาน แต่คิดว่าต้องทำงานให้เร็วที่สุด ส่วนจะทำอะไรนั้น ต้องหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองภาพรวมของ ครม. ชุดใหม่อย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงไม่ดี หากจะให้ตนไปพูดถึงเรื่องตัวเอง และเพื่อนใน ครม. แต่หากคนอื่นพูดถึง เรารับฟัง เมื่อถามว่าอยากทำงานอะไรในกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รอให้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ค่อยว่ากัน เพราะต้องรอรับฟังอะไรหลายอย่าง ต้องดูนโยบายของรัฐบาล และสิ่งที่เป็นอำนาจหน้าที่ และสถานการณ์ต่างๆ ก่อน เวลานี้จึงพูดอะไรไม่ได้ เมื่อถามอีกว่าเมื่อเข้าไปบริหารงานในกระทรวงสาธารณสุข จะทบทวนเกี่ยวกับเรื่องประกาศกำหนดยาบ้า 5 เม็ดใหม่ หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวย้ำว่า ให้ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ต้องทำตามประเพณีปฏิบัติ
เมื่อถามว่ามีเคล็ดลับอะไรที่ยังได้เป็นรัฐมนตรีต่อ นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ต้องมาคุยกันเป็นการส่วนตัว ถ้าพูดตรงนี้ เดี๋ยวก็เอาไปใช้หมด“
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่กลุ่มแพทย์ชนบทเคลื่อนไหวค้านการเปลี่ยนตัว รมว.สาธารณสุข จะส่งผลต่อการทำงานหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ จะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในรัฐบาลหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่สามารถความเห็นหรือล่วงรู้อะไรได้ เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่พิจารณาดูอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าโครงการโคแสนล้านที่นายสมศักดิ์ริเริ่มไว้ จะเดินหน้าต่อได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องรัฐบาลและรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะเข้ามารับผิดชอบ ตามที่ได้ริเริ่มไว้ส่วนหนึ่ง
