เมื่อวันที่ 1 พ.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. กล่าวว่า ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้กำชับการปฏิบัติให้ บช.สอท. เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมภายใน 30 วัน ตำรวจไซเบอร์มีผลการปฏิบัติ จับกุมผู้ต้องหา 593 คน, ตรวจยึดและอายัดทรัพย์สิน 1,535,718,800 บาท ประสานปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ 15,834 เว็บไซต์ ประสานปิดกั้นเพจมิจฉาชีพ 2,759 เพจ

สำหรับทรัพย์สินที่ยึดและอายัดทั้งหมด ตำรวจไซเบอร์ได้ประสานงานกับ ปปง. เพื่อนำเข้ากระบวนการตรวจสอบ หากมีหลักฐานพบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดจริง ทรัพย์สินเหล่านั้นจะถูกนำมาเฉลี่ยคืนให้แก่ผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์การเตือนภัยออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งทางช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ อินฟลูเอนเซอร์ สำนักข่าว วิทยุ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ไปบรรยายความรู้ตามสถานที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเดินหน้าป้องกันและปราบปรามภัยอาชญากรรมทางออนไลน์ให้แก่พี่น้องประชาชนในทุกมิติ

ผบช.สอท. กล่าวอีกว่า ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ยังให้โอกาส เพราะที่ผ่านมาตำรวจไซเบอร์ได้ทำงานอย่างเต็มที่ทุกมิติ ทั้งยึดและอายัดทรัพย์สิน รวมถึงจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญได้เป็นจำนวนมาก แต่ส่วนผลการประเมินเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่า ตำรวจไซเบอร์มีผลปฏิบัติงานเพิ่มมากขึ้นเปรียบเทียบจากผลงานของปีที่ผ่านมา ที่สามารถตรวจยึดอายัดทรัพย์สินได้เพียง 900 ล้านบาท แต่ในเฉพาะเดือนเมษายน 2567 เพียงเดือนเดียวสามารถตรวจยึดอายัดทรัพย์สินได้กว่า 1,500 ล้านบาท พร้อมกับยืนยันว่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดอายัดได้ทั้งหมด เป็นตัวเลขจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากเป็นการทำงานร่วมกับ ปปง. โดยไม่มีแต่งเติมตัวเลขเพื่อให้ดูมีมูลค่าสูง

ส่วนกรณีที่ทางนายกรัฐมนตรีมองว่าการปฏิบัติงานของตำรวจไซเบอร์ไม่มีการจับกุมผู้ต้องหารายใหญ่ หรือผู้บงการระดับหัวหน้าได้นั้น ทำให้ยังไม่พอใจผลงาน ขอยืนยันว่า ตำรวจไซเบอร์ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ส่วนจะส่งผลกระทบกับตำแหน่งหรือไม่ ส่วนตัวยังไม่ได้คิดถึงเรื่องดังกล่าว และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา สำหรับประเด็นที่มีหลายฝ่ายมองว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำเว็บพนันจนทำให้ไม่สามารถปราบปรามได้อย่างจริงจัง ในส่วนนี้เป็นเรื่องของระบบ ซึ่งตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างประสานการทำงานร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จนสามารถปิดกั้นเว็บพนันได้สูงถึงกว่าร้อยละ 60 แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะถูกมองว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเป็นหน่วยงานปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกัน