จากกรณี น.ส.ธนันญรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ได้นำหลักฐานเดินทางเข้าร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีซื้อหมู่บ้านสุดหรู หวังอยู่แบบสงบ แต่ต้องมาเจอมัดยิด ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านกว่า 1 กม. เพิ่มลำโพง ทำพิธีละหมาดประกาศออกเสียงตามสายดังสนั่น วันละ 5 เวลา ชาวบ้านรวมตัวกันไปแจ้งหน่วยงานราชการ เพื่อขอให้ช่วยเจรจาแก้ปัญหาลดเสียงเพื่ออยู่ร่วมกัน กลับถูกเจ้าหน้าที่ด่ากลับมา เนื่องจากเจ้าหน้าที่เป็นมุสลิม ชาวบ้านหลายคนต้องพบจิตแพทย์ ต้องกินยานอนหลับ ใครพอมีเงินก็ขายบ้านทิ้งราคาถูกๆ ไปหาซื้อบ้านใหม่อยู่ จึงนำเรื่องมาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อช่วยเป็นคนกลางในการเจรจาลดเสียงลงเพื่ออยู่ร่วมกัน เหตุเกิดบริเวณหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ย่านถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายเกียรติคุณ ต้นยาง สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 เข้าพบนายวันชัย ระดิ่งหิน (อิหม่าม) เพื่อขอความร่วมมือหาทางออกลดเสียงเวลาทำพิธีละหมาดที่รบกวนประชาชน พร้อมลงพื้นที่มัสยิดดูเครื่องเสียง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้ประสานไปทางบริษัทที่ซื้อเครื่องเสียงมาให้ปรับลดเสียงลง เนื่องจากเครื่องเสียงเป็นระบบดิจิตอล

นายวันชัย ระดิ่งหิน (อิหม่าม) กล่าวว่า บางครั้งคนเปิดก็ไม่รู้หรอกว่าเปิดดังหรือเบา นอกจากคนฟังว่าเสียงมันเบาหรือดังขนาดไหน หลายครั้งตนก็ให้คนไปฟังเขาก็บอกว่าไม่ค่อยดังเท่าไหร่ปกติทั่วไป ตอนนี้ก็ได้ทำเสียงใหม่หมดไปประมาน 4 แสนกว่าบาท จุดหมายจริงๆ ของคณะกรรมการทั้งหมดที่ทำเพื่ออะไร 1.ทำเพื่อประกาศให้ประชาชนรู้กันทั่วถึง ซึ่งบางครั้งตนเปิดให้ทางการมาใช้ ทางการมาใช้บ่อยมากไม่ว่าจะเป็นสาธารณะสุข เทศบาล อสม. ก็จะมาใช้เพราะว่าเสียงตามสายมันมีอยู่แล้วจะได้รู้พร้อมกันทีเดียว ซึ่งใน 1 วัน เปิดละหมาด 5 เวลา เวลาแรก ประมานตี 5 ช่วงเวลานี้จะเงียบ อาจจะทำให้เสียงดัง เวลาที่ 2 เวลา 12.30 น. เวลาที่3 เวลา 15.00 น. เวลาที่4 เวลา 18.30 น. และเวลาที่ 5 เวลา 20.00 น. ซึ่งจะเปิดละหมาดไม่เกิน 3-4 นาทีในแต่ละครั้ง ตอนนี้ตนก็ได้ลดเสียงลงแล้ว จาก 4 วอลุ่ม เหลือ 2 วอลุ่ม ตนก็ได้ถามคนข้างในที่อยู่อาศัย ไม่ใช่แค่เฉพาะคนไทยพุทธ แต่มีมุสลิมที่อยู่ด้วยจากที่ตนได้ไปถาม คือเสียงไม่ค่อยดังเท่าไหร่แล้วหมู่บ้านบางครั้งมันอาจจะสะท้อน ถ้าหากอยู่ในบ้านเสียงก็จะไม่ดังเท่าไหร่ ถ้าออกมาข้างนอกเสียงก็จะดังขึ้น พอพ้นจาก 4 นาที ทางมัสยิดเขาก็จะปิดเป็นเสียงภายใน จะไม่ปล่อยเป็นเสียงภายนอก เวลาจะทำกิจกรรมอะไรก็จะเป็นเสียงภายในทั้งหมด

ขณะที่นิติบุคคลหมู่บ้าน กล่าวว่า ในระบบเสียงของเขาไม่มีการหมุนแกล้งแน่นอน ซึ่งมันเป็นระบบล็อก ถ้าจะให้มีการแก้ไขลดวอลุ่มเสียงก็ต้องติดต่อบริษัทที่ขายชุดขยายเสียงให้เขามาแก้ ทางเขาจะปรับทิศทางลำโพงให้เรา เขาขอระยะเวลา 1 เดือน ถ้าทางเรายังไม่พอใจก็ให้ไปติดต่อทางเทศบาลอีกครั้ง เพื่อที่จะนัดกับกรมสิ่งแวดล้อมมา ซึ่งเทศบาลแจ้งมาว่าถ้าจะให้กรมสิ่งแวดล้อมมาวัดค่าเสียงเดซิเบล ขั้นต่ำต้องรอ 6 เดือน เพราะว่าเขาก็ต้องมีดูแลพื้นที่อื่นๆ ด้วย ทางตนก็โอเค หลังจากนี้ 15 วันก็จะส่งหนังสือ MOU ที่ได้ตกลงกันไว้ ในส่วนของลูกบ้านตนไม่ทราบว่าเขาร้องไปที่ไหนบ้าง เขาคงเจอแบบนี้มานานแล้ว แต่ตนมาอยู่ได้แค่ 1 เดือน ตนก็ได้ทำในสิ่งที่ตนได้รับเรื่องมา แต่ในทางด้านกฏหมายตนจะไม่ดำเนินการให้ลูกบ้าน และได้แจ้งลูกบ้านไปแล้ว เพราะว่ามันเลยขอบเขตการทำงานของเรา ซึ่งถ้าอยู่ในห้องจะไม่ได้ยินเสียง แต่ถ้าตอนออกมาเข้าห้องน้ำหรือไปตรวจโครงการก็จะมีได้ยิน ประมาน 3-4 นาที หลังจากนั้นเขาก็จะตัดไปใช้ลำโพงภายใน เขาใช้ลำโพงถึง 2 ระบบ ซึ่งบางครั้งลูกบ้านก็กลัวในเสียงเอื้อนอย่างเช่น ช่วงเวลา ตี 4.50 น. ซึ่งเป็นเวลาเช้ามืดจริงๆ ซึ่งจะให้เขาถอดลำโพงไปเลย ไม่ให้เปิด ตนก็มองว่าคนละครึ่งทางดีกว่า เพราะเขาก็มีศาสนาของเขา เราก็มีศาสนาของเราเหมือนกัน ซึ่งลูกบ้านบางคนก็ไม่ได้คิดเหมือนกัน ซึ่งลูกบ้านที่ไปร้องเรียนเมื่อวานก็มี 10 กว่าหลัง ซึ่งก็มีลูกบ้าน 1 หลังมาแจ้งตนว่าเสียงลดลงแล้ว

นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ได้มีการยื่นข้อเสนอมาทางตนว่า อยากให้ตนมาประสานไปทางผู้ร้อง และทางนิติของหมู่บ้านว่าอยากให้มีการพูดคุย จะให้เดินทางมาคุยที่มัสยิด หรือเดินทางไปคุยที่หมู่บ้าน เพื่อที่จะไปฟังเสียงที่ท่านได้ยินตรงนั้นใน 5 เวลาดังกล่าว ว่ามันดังเกินความจำเป็นหรือว่าไปรบกวนความเป็นอยู่ของผู้ร้องหรือไม่ ถ้ามันเกินความจำเป็นและรบกวนความเป็นอยู่ของผู้ร้องจริงทางมัสยิด ทางอิหม่าม หรือทางท่าน ประเสริฐ ที่เป็นกรรมการของมัสยิด ท่านก็พร้อมที่จะปรับลดความดังอยู่ในระดับที่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ส่วนพี่น้องประชาชนที่คิดว่าได้รับความเดือดร้อนก็จะได้อยู่อาศัยได้เป็นปกติ หรืออาจจะรบกวนเล็กน้อยตามช่วงเวลา ก็ต้องรอทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกัน ตนจะเป็นธุระในการประสานทั้งนิติและทางผู้ร้องต่างๆ จะมาพูดคุยหาจุดตรงกลางให้อยู่ด้วยกัน ซึ่งตนก็เห็นใจถ้าจะให้ปิดเลยคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาต้องประกอบศาสนกิจ แต่ก็ต้องอยู่ในความจำเป็นที่ต้องประกอบศาสนกิจ เพื่อให้ไม่ไปรบกวนการพักอาศัยของพี่น้องประชาชน.