เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 8 ก.ค.ญาติของอาสาดับเพลิง ที่ถูกไฟคลอกเสียชีวิตได้นิมนต์พระมาทำการเชิญวิญญาณยังจุดที่เกิดเหตุ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติ ๆ ต่อมาในเวลา 09.30 น. วิศวกรอาสาจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 25 คน  ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านภายในหมู่บ้านหรูที่อยู่ในรัศมี 2 กิโลเมตร ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด และเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก ย่านกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ  ทำให้บ้านหลายหลังคาเรือนได้รับความเสียหาย โดยจะตรวจสอบทั้งในด้านโครงสร้างและความแข็งแรง ก่อนจะให้คำแนะนำแก่เจ้าของบ้านเรื่องการซ่อมแซมโดยไม่มีใช้จ่าย

ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า  เบื้องต้นวิศวกรจะแบ่งออกเป็นทีมละ 2 คน กระจายสำรวจตามบ้านเรือนประชาชน หากพบว่าอาคารใดน่าเป็นกังวลก็จะเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด ขณะที่ประชาชนก็สามารถประเมินเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองจาก 4 ข้อสังเกต คือ 1. ดูลักษณะทางกายภาพว่าบ้านตั้งตรง หรือ มีลักษณะเอียงหรือไม่   2. ดูตำแหน่งรอยร้าวที่เกิดขึ้น หากเกิดที่ผนังหรือกระจกแสดงว่าปลอดภัยเพราะไม่ได้เกิดกับโครงสร้าง  3.ดูรอยร้าวช่วงต่อระหว่างคานกับเสา หากเกิดรอยร้าวบริเวณนี้ให้แจ้งวิศวกรเข้าไปประเมินทันที และ  4. หากเข้าไปในบ้านสักพักแล้วเกิดเสียงลั่นและมีคอนกรีตร่วงลงมา ให้รีบอพยพออกจากบ้านและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ 

เร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้โรงงานย่านบางพลี

สำหรับหมู่บ้านแห่งนี้ มีบ้านอยู่กว่า 388 หลังคาเรือน โดยอยู่ในรัศมี 2 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะได้รับผลกระทบหนักไปถึงโครงสร้าง เนื่องจากแรงระเบิดเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว

ขณะที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต ซึ่งอยู่ริมถนนกิ่งแก้ว ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณหนึ่งกิโลครึ่ง วันนี้ได้นำรถพยาบาลออกไปตระเวนลำเลียงผู้ป่วยทั้งหมดที่ไปฝากรักษาอยู่ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในเครือจุฬารัตน์ ซึ่งเป็นผู้ป่วยไอซียู 16 คน และผู้ป่วยใน 80 คน รวมทั้งผู้ป่วยไอซียูที่ย้ายออกไปพักดูแลตามโรงพยาบาลต่างๆ ในเครือ รพ.จุฬารัตน์ กลับมาเข้ารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 อย่างเดิม 

ด้านนพ.กิตติไกร ไกรแก้ว นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9  กล่าวว่า รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต วันนี้ได้เปิดทำงานปกติแล้ว แต่ยังไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ในวันนี้ภารกิจแรกจะเป็นในส่วนห้องฉุกเฉิน ศูนย์ไตเทียม สามารถเปิดบริการได้ตามปกติ opd  ผู้ป่วยใน จะเปิดให้บริการวันที่ 9 ก.ค. รวมถึงการตรวจ คัดกรองโควิด จะต้องรีบเคลียร์คนที่ตกค้างอยู่

ส่วนบรรยากาศชาวบ้านทยอยกลับเข้าบ้านเพื่อตรวจสอบความเสียหาย และทำความสะอาดบ้าน โดยเฉพาะชาวบ้านในชุมชนคลองบางพลี หมู่ 15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี สมุทรปราการ ซึ่งอยู่ห่างจากที่โรงงานเม็ดโฟม หวังตี้ เคมีคอล ที่ถังเคมีเกิดระเบิด ประมาณ 700 เมตร หลังเกิดเหตุเจ้าของบ้านต่างพากันอพยพไปอยู่ที่อื่น หลังทราบว่ามีการลักทรัพย์บ้านของผู้อพยพ เจ้าของบ้านพากันทยอยกลับมาตรวจสอบทรัพย์สินของตัวเอง 

 ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษยังคงเดินหน้าเข้าตรวจการปนเปื้อนของสารพิษในอากาศ พร้อมเก็บตัวอย่างดินและตัวอย่างน้ำตามจุดต่าง ๆ ในรัศมี 1 กิโลเมตร ไปทำการตรวจสอบว่ายังมีสารเคมีปนเปื้อนอยู่อีกหรือไม่ ส่วนสภาพอากาศในจุดที่เกิดเหตุและละแวกใกล้เคียงขณะนี้สภาพอากาศไม่มีสารเคมีปนเปื้อนแล้ว 

ส่วนในจุดที่เกิดเหตุสัญญาณเริ่มดี หลังจากเทสารดี 5 ลงไปผสมอุณหภูมิในเคมีลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี เมื่อทางเจ้าหน้าที่พบว่าอุณหภูมิของสารเคมีภายในถังเริ่มลดลงต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ แต่ก็ยังต้องคอยเฝ้าระวัง ซึ่งสัญญาณแบบนี้ทางเจ้าหน้าที่น่าจะเคลียร์พื้นที่ได้ตามแผนการที่วางไว้ แต่จะมีอุปสรรคเล็กน้อยเนื่องจากระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันลำเลียงสาร DEHA หรือสาร ดี 5 เข้าไปนั้นมีเจ้าหน้าที่ได้รับผลกระทบในระบบทางเดินหายใจ 2 นาย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว