สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน แถลงร่วมกับนายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บาน ผู้นำฮังการี ระหว่างการเยือนกรุงบูดาเปสต์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลปักกิ่งให้ความสำคัญกับการส่งเสริม และการพัฒนาความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป (อียู)


ขณะเดียวกัน สีแสดงความหวังว่า ฮังการีซึ่งจะทำหน้าที่ประธานหมุนเวียนของอียู ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ “จะมีบทบาทมากขึ้น” เพื่อผลักดันให้เกิดการยกระดับความสัมพันธ์ ระหว่างจีนกับอียู


นอกจากนั้น ผู้นำจีนและผู้นำฮังการีร่วมเป็นสักขีพยาน การลงนามในข้อตกลงการค้าร่วมกัน 18 ฉบับ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานนิวเคลียร์ และอุตสาหกรรมยานยนต์


อนึ่ง การเยือนฮังการีอย่างเป็นทางการของผู้นำจีนในครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องในโอกาสการเฉลิมฉลองครบรอบ การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ ที่ครบรอบ 75 ปีในปีนี้ และฮังการีเพิ่มการเปิดกว้าง รับการลงทุนจากจีน โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งออร์บานประกาศว่า ต้องการให้ฮังการีเป็นศูนย์กลางการผลิตอีวีระดับโลก

ทั้งนี้ รัฐบาลของออร์บาน ซึ่งอยู่ในอำนาจตั้งแต่ปี 2553 ดำเนินนโยบาย “อีสเทิร์น โอเพนนิง” เพื่อสร้างเสริมความสัมพันธ์กับนานาประเทศในฝั่งตะวันออกของโลก โดยเฉพาะจีน รัสเซีย และประเทศอีกหลายแห่งในเอเชีย ส่งผลให้ฮังการี ถือเป็นมิตรประเทศในยุโรปซึ่งแน่นแฟ้นที่สุดของจีนและรัสเซีย ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งรวมถึงสงครามในยูเครน ที่ฝ่ายตะวันตกกล่าวว่า “จีนเข้าข้างรัสเซีย”.

เครดิตภาพ : AFP