เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 พ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และนายวรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ณ โกดังเก็บสินค้าเลขที่ 555/71 หมู่ที่ 2 ต. ดอนไก่ดี อ.ทุ่มกระแบน จ.สมุทรสาคร หลังจากขยายผลการจับกุม 6 ร้านลักลอบจำหน่ายในพื้นที่ใกล้โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ย่านศาลายา จ.นครปฐม โดยยึดของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ร่วมกับจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดนครปฐม นำโดยชุดปฏิบัติการกรมการปกครอง ร่วมกับเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตำรวจภูธรภาค 7 และสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน ได้บูรณาการร่วมกันดำเนินปฏิบัติการ “ดับควัน วันเปิดเทอม” บุกทลายโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ที่นำเข้าสินค้าของเถื่อน คือ บุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ในพื้นที่ดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ต้องยอมรับว่าเป็นการจับกุมของเถื่อนที่มีจำนวนมากที่สุดตั้งแต่ตนร่วมลงพื้นที่ในการจับกุมที่ผ่านมา

“ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เดินหน้าปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ เพื่อแก้ไขสถานการณ์แพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในนักเรียนนักศึกษาอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเปิดเทอม ซึ่งเราได้รับทราบความเดือดร้อนจากพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างต่อเนื่อง เพราะบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มอบเมาเด็กเยาวชน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า นับว่ามีความหลากหลาย มีรูปร่างลักษณะสวยงาม อาทิ มีลักษณะเป็นการ์ตูนโดราเอมอน มีอุปกรณ์เติมแต่งรสชาติ มีเทคโนโลยี อีกทั้งยังมีรสและกลิ่นหลากหลาย อุปกรณ์ต่างๆ มากมาย” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพุทธมณฑล ได้ทราบเบาะแสจากการจับกุมร้านค้า 6 แห่ง ที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ในพื้นที่อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ทางนายอำเภอพุทธมณฑลจึงได้ร่วมกับกรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขยายผล จนสืบทราบเบาะแสว่ามีโกดังเก็บสินค้าอยู่ในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน จึงได้ดำเนินการขอหมายค้นจากศาลเพื่อเข้าตรวจสอบทันที แม้ว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะไม่สามารถจับกุมตัวเจ้าของสินค้าได้ แต่สามารถจับกุมผู้เฝ้าโกดังสินค้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง อยู่ระหว่างการตรวจสอบของกลาง โดยคาดว่ามีมูลค่าสูงกว่า 100 ล้านบาท

สำหรับขั้นตอนการเข้าจับกุมนั้น กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครองได้ประสานงานร่วมกับจังหวัดสมุทรสาคร และตำรวจภูธรภาค 7 โดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สั่งการให้ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร และ สภ.กระทุ่มแบน ได้เข้ามาอำนวยความสะดวกและนำจับให้กับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ซึ่งเป็นทีมงานที่ตนมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และเปรียบเสมือนเป็นทีมงานที่หาซื้อไม่ได้ ที่ทุกคนนั้นมีความตั้งใจที่จะรักษาความสงบสุขให้กับบ้านเมืองและสังคม

“ขอเตือนไปยังผู้ที่คิดจะทำผิดกฎหมาย พวกเราฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงทุกคน พร้อมที่จะปกป้องบ้านเมืองและประเทศชาติ หากมีการกระทำผิดที่ไหน ไม่ต้องวิ่งเต้น ไม่ต้องคิดว่าจะไปให้สินบาทคาดสินบนใคร ทุกอย่างที่กระทำผิดฝ่าฝืนกฎหมายต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกันกับบุหรี่ไฟฟ้า ต้องสอบเส้นทางการเงิน ติดตามยึดทรัพย์ ขอย้ำว่าหากกระทำผิดแล้วไม่เกิดความคุ้มค่าอย่างแน่นอน และผมขอแสดงความชื่นชมทุกภาคส่วนที่ได้บูรณาการร่วมกันในการบุกจับครั้งนี้ เราทุกคนทุกฝ่ายทำงานร่วมกันทั้งปราบปรามยาเสพติด ปราบปรามผู้มีอิทธิพล รวมถึงอาวุธปืน สิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด ซึ่งเราจะจัดระเบียบสังคมให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทางการเราไม่ยอมให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายอย่างแน่นอน” นายอนุทิน กล่าว