กรณี ตำรวจสืบสวนนครบาล กับ ตำรวจ สน.ดอนเมือง นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 199/254 หมู่บ้านเดอะคอนเน็ค 57 ซอยเทิดราชัน 17 ถนนเทิดราชัน แขวงสีกัน เขตอนเมือง กรุงเทพฯ จับกุมตัว นายเอกลักษณ์ ขุนพรม หรือ เอก สายเต๊าะ อายุ 41 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง พร้อมตรวจยึดของกลางปืนยาว บีบีกัน 1 กระบอก และทรัพย์สินที่นายเอก ก่อเหตุชิงทรัพย์จาก รปภ.หมู่บ้าน ผู้เสียหายไป เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ก.ค. ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
แฉวีรกรรม! ‘เอก สายเต๊าะ’ ประวัติสุดแสบ ศาลเคยสั่งจำคุก-คดีเป็นหางว่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วยบ่ายวันเดียวกัน (20 ก.ค.) พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง หัวหน้าชุดตรวจค้นบ้านนายเอก กล่าวว่า สอบปากคำ นายเอก สายเต๊าะ ยังให้การปฏิเสธ ก็ถือเป็นสิทธิที่ผู้ต้องหาจะให้การ ส่วนตำรวจเองจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประวัติก่อนหน้านี้ที่ถูกดำเนินคดี และข้อมูลจากชาวบ้าน โดยยืนยันว่าจะดำเนินการทุกมิติและรอบคอบอย่างถึงที่สุด ซึ่งจากการค้นบ้าน พบสิ่งเทียมอาวุธปืน อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นปืนจริงหรือไม่ นอกจากนี้ บริเวณรั้วบ้านยังพบกระเป๋าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ที่นายเอกใช้มีดยาวไปชิงทรัพย์เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด ซึ่งก็ได้ตรวจยึดมีดที่ใช้ก่อเหตุเอาไว้แล้วด้วย ส่วนการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นไม่พบสารเสพติด ส่วนการตรวจจิตเวช แพทย์วินิจฉัยว่าไม่ว่ามีอาการทางจิต
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) โดยในสำนวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพนักงานสอบสวนจะต้องบรรยายพฤติการณ์ และประวัติการกระทำความผิดที่พบว่ามีการกระทำความก่อนหน้านี้ เพื่อให้ศาลพิจารณาเรื่องของความรุนแรงและมีผลกระทบกับประชาชนในวงกว้าง เชื่อว่าจะมีผลในการพิจารณาของศาลอย่างแน่นอน เพราะอัตราโทษของผู้ที่เคยกระทำความผิด หากพบว่ามีการประทำความผิดซ้ำ ศาลจะหยิบยกมาให้ความสำคัญในการพิจารณา
ส่วนการดำเนินการตามกฎหมายอาญาตามมาตรา 39 ห้ามเข้าเขตกำหนดหรือควบคุมตัวในกรณีจำเลยกระทำตัวเป็นอันตรายต่อสังคม และมาตรา 45 ศาลสั่งห้ามจำเลยเข้าเขตที่กำหนดไม่เกิน 5 ปี ทางตำรวจก็จะมีการบรรยายไปในสำนวน แต่จะมีการบังคับใช้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ส่วนข้อหาอื่นๆ จำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ มาประกอบให้รอบด้าน เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเข้าใจความรู้สึกและความเดือดร้อนของชาวบ้านเป็นอย่างดี แต่การดำเนินคดีจะต้องขึ้นอยู่กับกรอบของกฎหมาย ทั้งที่ตำรวจทุกนานอยากจะลุย แต่บางครั้งติดเรื่องข้อกฎหมาย ทำให้ไม่ทันใจชาวบ้าน ขอให้อดใจรอ
ส่วนการไลฟ์สดโชว์อาวุธปืนและก่อความเดือดร้อนรำคาญเดินไปมาในหมู่บ้านนั้น ขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว และจะต้องมีการถอดถ้อยคำจากคลิปวิดีโอไลฟ์สด เพื่อดูว่าเข้าข่ายว่าการกระทำผิดกฎหมายข้อใดบ้าง
ต่อมาตำรวจนำตัวนายเอก มาสอบปากคำที่ห้องสอบสวน โดยมีท่าทีสงบลง สามารถตอบคำถามสื่อมวลชนได้อย่างชัดเจน โดยกล่าวคำขอโทษกับประชาชน และยืนยันว่าจะปรับปรุงตัว ด้วยการไม่เสียงดัง ขอโทษที่ทำให้ชาวบ้านตกใจกลัว คำพูดของตนอาจจะรุนแรงไป จะไม่ขับรถเร็วในหมู่บ้าน และจะใช้คำพูดกับเพื่อนบ้านดีๆ ในอนาคตจะทำได้หรือไม่ ตนยังไม่รับปาก แต่จะพยายาม แต่การออกมาโวยวาย ยอมรับว่าต้องการติเพื่อก่อ อยากให้นิติบุคคลของหมู่บ้านออกมาปรับปรุงการทำหน้าที่ ส่วนการจะสำนึกผิดหรือไม่ ยืนยันว่าไม่สำนึกผิด เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร ส่วนการนอนห้องขังถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่กังวล ทำผิดก็ต้องรับผิด
น.ส.โบว์ (สงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 34 ปี หนึ่งในลูกบ้านในหมู่บ้านนายเอก ได้นำอาหารและน้ำดื่มมาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน เพื่อแสดงความขอบคุณที่ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของลูกบ้าน หลังทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายเอก มาที่ สน.ดอนเมือง พร้อมเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาก็เป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของนายเอก โดยทำทรัพย์สินเสียหาย ความเสียหายจากการที่ได้ไปใช้เส้นทางอื่น จากการที่นายเอกปิดทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ส่วนลูกบ้านคนอื่นๆ ถูกกระทำการในลักษณะเดียวกัน ยอมรับว่าทนไม่ไหวถึงขั้นต้องประกาศขายบ้าน พร้อมอยากขอร้องเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าวให้หมดไปเสียที
ส่วนการประกาศขายบ้านนั้น ตอนนี้ลูกบ้านและตนยังคงจะประกาศขายบ้านอยู่ เพราะยังไม่ได้รับความชัดเจนว่านายเอกจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา นายเอก ถูกจับกุมมาแล้ว และได้รับการปล่อยตัวออกมา หลังปล่อยตัว ก็ออกมาอาละวาดและกระทำลักษณะเดิมซ้ำ จริงๆ แล้วคนที่ควรออกจากหมู่บ้าน คือนายเอก ไม่ใช่ลูกบ้าน พร้อมวอนเจ้าของโครงการควรดำเนินการขั้นเด็ดขาด ไม่ควรปล่อยให้เป็นภาระของลูกบ้าน อย่ารักษาบ้านเพียง 1 หลัง แลกกับคนหมู่มาก เพราะทุกวันนี้ชาวบ้านต้องอยู่กันด้วยความหวาดระแวง ทั้งที่บ้านเป็นเหมือนพื้นที่ปลอดภัย แต่กลายเป็นว่าต้องนั่งระแวงว่าวันนี้จะต้องเจอกับอะไร
ส่วนความเสียหายที่ได้รับ เบื้องต้นยังไม่ได้คุยกับลูกบ้าน แต่นิติหมู่บ้านแค่แจ้งให้ลูกบ้านที่ได้รับความเสียหาย รวบรวมหลักฐานและใบแจ้งความมาลงชื่อไว้ ส่วนตัวเชื่อว่าหากนายเอกได้รับการประกันตัว ก็จะไม่เข็ดหลาบ และออกไปกระทำในลักษณะเดิมอีก และหวั่นว่าจะกระทำการรุนแรงมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ยังหวังว่าทุกหน่วยงานจะดำเนินการกับ เอก สายเต๊าะ ขั้นเด็ดขาดเสียที เพื่อความสงบสุขของคนทั้งหมู่บ้าน