เมื่อวันที่ 24 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาวาเอกแสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการ ศรชล.สตูล นำใต้บังคับบัญชาฯ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สตูล ตำรวจน้ำสตูล ตชด.ที่ 436 ตำรวจ สภ.เมืองสตูล ทหารหมวดปืนเล็ก ร้อย .ร 5021 และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสตูลรวมทั้งสิ้น จำนวน 48 นาย นั่งเรือตรวจการตำรวจน้ำ 521 , เรือตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล 1 และเรือตรวจการของ ศรชล.สตูล บุกน้ำผ่าคลื่นไปเข้าตรวจสอบเรือประมงที่ถูกเผาที่ตำบลปูยู อ.เมือง จ.สตูล
ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 พ.ค.67 ได้เข้าไปเพื่อต้องการที่จะตรวจสอบ เรือประมงลำดังกล่าวที่มีข้อมูลพบว่า เป็นเรือที่ใช้สำหรับขนส่งยาเสพติดแต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้เนื่องจากถูกชาวบ้านขว้างปาหินใส่เรือเจ้าหน้าที่จนกระทั่งเจ้าหน้าที่จะต้องล่าถอยออกมา และจึงได้สนธิกำลังเข้าไปตรวจสอบอีกดังกล่าวแต่เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าเรือลำดังกล่าวถูกเผาเสียแล้วจึ่งต้องประสานกับ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ก่อนที่จะเข้าตรวจสอบร่องรอยสภาพเรือที่ถูกเผาไหม้ดังกล่าวพบว่า สภาพเรือถูกเพลิงไหม้ช่วงกึ่งกลางเรือจนไปถึงท้ายเรือ โดยมีร่องรอยไฟไหม้ดำ มีรอยรั่ว จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะลากเรือลำดังกล่าวนี้เข้าฝั่งแผ่นดินใหญ่ได้
มีรายงานว่า นายยัสมี หมานสัน ผญบ. หมู่ 1 (บ้านเกาะยาว) ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล ผู้นำท้องที่อยู่ประจำบนเกาะแห่งนี้ พร้อมที่จะให้ความร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจะเดินทางขึ้นไปบนฝั่งเพื่อเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.เมืองสตูล และจะรวมรวบรายชื่อบุคคลที่ขัดขวางการทำงานหรือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เพื่อส่งจะให้ทางราชการตรวจสอบว่ามีชาวบ้านคนไหนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ในส่วนของ ผู้ต้องสงสัยที่เป็นเจ้าของเรือลำดังกล่าวนี้ นั้น ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นชาวประเทศมาเลเซียที่เข้ามาอาศัยอยู่ที่บนบ้านเกาะยาวมีภรรยาเป็นคนบนเกาะยาว (เป็นคนไทย)
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า เรือลำที่เกิดเหตุดังกล่าว มีประวัติการทำสิ่งผิดกฎหมายในน่านน้ำทางทะเลของจังหวัดสตูลและจากสาเหตุการเผาเรือลำนี้นั้น เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นไปได้ว่า เจ้าของเรือลำเกิดเหตุนี้คงกลัวมีความผิด และกลัวเจ้าหน้าที่จะเรือลากขึ้นฝั่งไทยเพื่อนำไปตรวจสอบ จึงได้เผาเรือลำดังกล่าวเพื่อทำลายหลักฐาน แต่ช่วงที่เผาเรือด้วยสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาจึงทำให้เรือเพลิงไหม้บางส่วน สำหรับเจ้าของเรือหลบหนไป
ด้าน นาวาเอกแสนย์ไท กล่าวว่า กรณีที่มีคนบางกลุ่มเข้ามาขัดขวางปาหินใส่เจ้าหน้าที่นั้น และเท่าที่พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่า เป็นปัญหาจากคนกลุ่มเพียงไม่กี่คน ที่ได้เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งถือว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้การที่เจ้าหน้าที่ขึ้นมาบนเกาะครั้งนี้ เพื่อเร่งที่จะตรวจสอบรายละเอียดผู้คนบนเกาะ ทั้งผู้นำท้องที่ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย และคนในพื้นที่ว่า บนเกาะเกิดอะไรขึ้น
ทั้งนี้ก่อนที่จะได้ดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป แต่อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ในฐานะผู้อำนวยการศรชล.จังหวัดสตูลต้องการที่จะให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านบนเกาะ อยากให้มองว่า คนบนเกาะไม่ใช่คนที่เป็นหัวรุนแรง เป็นเพียงชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะเหมือนชาวบ้านทั่วไป และทางเจ้าหน้าที่จะเร่งหาตัวผู้กระทำผิดครั้งนี้เพื่อนำมาลงโทษตามกฏหมายให้ได้ต่อไป สำหรับคดี นี้ เบื้องต้นเจ้าของพื้นที่ จะต้องรีบเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพราะว่า มีเหตุวางเพลิง เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง จะต้องทำการสืบสวน สอบสวนหาคนร้ายผู้กระทำผิดอย่างเร่งด่วนต่อไป ซึ่งเบื้องต้นใครคือคนร้ายเป็นมือเผาเรือ
ส่วนเรือลำดังกล่าวนี้ เป็นเรือที่อยู่ในข้อสงสัยตามสายข่าวของหน่วยงานความมั่นคง และเรือลำนี้ เป็นลักษณะเรือไฟเบอร์กลาส เครื่องยนต์ติดท้ายขนาด 2 เครื่อง กว้างประมาณ 1.5 เมตร มีความยาว 5 เมตร การแล่นในทะเลดูเบาๆ แต่เป็นเรือวิ่งเร็ว.