‘ธรรมนัส’ ลงพื้นที่สมุทรสาคร ยกวาระแห่งชาติแก้ปัญหา ‘ปลาหมอคางดำ’

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 ก.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ ร่วมกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ณ สมาคมการประมงสมุทรสาคร อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ว่า เรื่องการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ขณะนี้ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติ การปราบปรามไม่ได้เริ่มทำแต่ทำกันมานานแล้ว แต่มาตรการต่างไม่ได้ผลตามที่ต้องการเพราะมีหลายปัจจัย การแพร่ระบาดขณะนี้มากขึ้น ถือว่าวิกฤติขณะนี้ ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนต้องมาช่วยกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

“หลังผมประกาศจับตายปลาหมอคางดำโดยการรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 15 บาท ยังมีกลุ่มคนหัวใสไปตระเวนรับซื้อจากพี่น้องประชาชนในราคาที่ถูกแล้วนำมาขายในราคาดังกล่าว ขอร้องอย่าทำเรื่องนี้เด็ดขาด ผมได้มีการหารือกับเชฟชุมพล แจ้งไพร เพื่อทำเป็นเมนูอาหาร แต่จะขับเคลื่อนให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ในเรื่องของการทำปลาร้า สร้างมูลค่า” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ขณะเดียวกันมาตรการต่างๆ ในการแก้ไขปัญหา อาทิ การทำหมันปลาหมอคางดำก็ดี การสร้างปลานักล่าก็ดี ได้ให้ข้อคิดว่า สิ่งที่ควรระวังคือถ้าเกิดได้ผล แต่เป็นเอเลี่ยนสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมา จะทำอย่างไร เป็นห่วงตรงนี้ ถึงขั้นตอนนั้นจะทำอย่างไร ให้คำนึงถึงด้วย ส่วนการหาแหล่งที่มาได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตั้งคณะกรรมการขึ้นและเร่งให้รีบดำเนินการ

ด้านนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับผลการประชุม ทางสมาคมได้มีการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จำเป็น และเร่งด่วน รวม 9 ข้อ ประกอบด้วย 1. เสนอให้รัฐบาลกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยมีคณะกรรมการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รมว.เกษตรฯ เป็นรองประธาน ปลัดกระทรวง อธิบดีที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ อธิบดีกรมประมงเป็นเลขาธิการ 2. พิจารณาออกประกาศให้มีการผ่อนผันเครื่องมือประมงพื้นบ้านที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการจับปลาหมอคางดำได้ในแหล่งน้ำสาธารณะที่จำเป็น 3. กำหนดให้แต่ละจังหวัดจัดทำแผนที่แหล่งน้ำสาธารณะ เช่น แม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง ชายฝั่งทะเล รวมถึงพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประชาชนที่มีปลาหมอคางดำระบาด เพื่อใช้ในการวางแผนการบริหารจัดการกำจัดปลาหมอคางดำอย่างเป็นระบบ 4. กำหนดให้ประมงจังหวัดแต่ละจังหวัดร่วมกับสมาคมประมงในพื้นที่ประสานชาวประมงรับลงทะเบียนเรือประมง ที่จะเข้าร่วมโครงการกำจัดปลาหมอคางดำ

5. เสนอรัฐบาลจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนสนับสนุนในการกำจัดปลาหมอคางดำให้กับชาวประมง รวมทั้งรับซื้อปลาที่จับได้ในราคากิโลกรัมละ 15 บาท ภายในระยะเวลาที่กำหนดชัดเจน เพื่อเร่งรัดในการกำจัดและป้องกันการลักลอบเพาะเลี้ยง 6. กำหนดให้มีคณะกรรมการทำงานเฉพาะกิจในแต่ละจังหวัด โดยมีประมงจังหวัดเป็นประธาน 7. ให้คณะกรรมการเฉพาะกิจจังหวัดต่างๆ ประสานเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้ช่วยแจ้งข้อมูลการระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่ 8. ให้ตั้งหน่วยเฉพาะกิจรับแจ้งข้อมูลการแพร่ระบาด และ 9. พื้นที่ไหนที่มีการกำจัดปลาหมอคางดำจนเหลือน้อยแล้วให้เริ่มมีการปล่อยปลานักล่าลงไปในแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง เพื่อให้กินลูกปลาหมอคางดำในการตัดวงจรชีวิตปลาหมอคางดำให้หมดไป จากนั้นจึงมีการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำต่อไป

ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่แพ นายวิชาญ เหล็กดี หมู่ 2 (ริมคลองพิทยาลงกรณ์) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อดูการรับซื้อปลาหมอคางดำ ที่ชาวบ้านนำมาขายในกิโลกรัมละ 15 บาท โดยพบว่าปัจจุบันมีการรับซื้อปลาหมอคางดำจากเกษตรกรและชาวประมงไปแล้วทั้งหมด 202,053 กิโลกรัม พร้อมให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า จังหวัดสมุทรสาคร พบการระบาดแบ่งออกเป็นในพื้นที่ อ.เมือง ได้แก่ คลองพิทยาลงกรณ์ คลองสุนัขหอน คลองมหาชัย แม่น้ำท่าจีน รวมทั้งคลองสาขาต่างๆ ในอำเภอบ้านแพ้ว และอำเภอกระทุ่มแบน ส่วนการดำเนินการแก้ไขทราบว่า มีการตั้งจุดรับซื้อปลาหมอคางดำ รวม 6 จุด อยู่ใน อำเภอเมือง 3 จุด อำเภอบ้านแพ้ว 2 จุด และ อำเภอกระทุ่มแบน 1 จุด โดยตั้งแต่เดือน ก.พ.ถึง 20 ก.ค. รวม 565 ตัน ปลาที่ได้ส่งขายให้โรงงานทำปลาป่น และนำไปมอบให้พัฒนาที่ดินในการทำน้ำหมักชีวภาพคุณภาพสูงต่อไป

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงได้มีการออกประกาศกรมประมง เรื่อง ประชาสัมพันธ์ห้ามเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ ลงวันที่ 19 ก.ค. 67 เพื่อประชาสัมพันธ์เน้นย้ำ สร้างการรับรู้ และการตระหนักรู้อย่างจริงจัง โดยมีสาระสำคัญว่า หากผู้ใดฝ่าฝืนทำการเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำจะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 144 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากนำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบเห็นเหตุดังกล่าวให้แจ้งสำนักงานประมงจังหวัดหรือสำนักงานประมงอำเภอในเขตท้องที่ทุกแห่ง หรือแจ้งเบาะแสพิกัดที่พบการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอดเวลาที่ https://shorturl.asia/3MbkG