จากกรณีชายคลุ้มคลั่งเมายาอาละวาดจุดไฟเผาที่พักและใช้ปืนยิงปลายิงพ่อตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อประมาณ 4 ทุ่มเมื่อคืนที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. พ.ต.อ.ภัสพงษ์ บุตรไทย ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.ท.เอกวัตร วรรักษา รอง ผกก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ราษฎร์บูรณะ และอาสาสมัครร่วมกตัญญู นำกำลังมาปิดล้อมโรงงานเหล็กเก่า เลขที่ 145 ซอยสุขสวัสดิ์ 18 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ หลังนายเอกชัย แสงทองดี อายุ 31 ปี ย้อนกลับมาที่พักตั้งแต่เช้ามืดพร้อมปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคาภายในโรงงาน โดยมี น.ส.ณัชชา แสงทองดี อายุ 54 ปี มารดาผู้ก่อเหตุ คอยเจรจาด้วยความเป็นห่วง

ต่อมาเวลา 09.00 น. พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 เดินทางมาสั่งการด้วยตัวเองเพื่อวางแผนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุลงมาจากหลังคา โดยตำรวจพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุแต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ขณะที่ตำรวจไม่สามารถปีนขึ้นไปควบคุมตัวได้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีปืนยิงปลา มีดอีโต้และมีดปลายแหลมติดตัวตลอดเวลา กระทั่งมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมนำเบาะลมมารองรับด้านล่าง

ด้าน น.ส.ณัชชา กล่าวว่า ลูกชายก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเป็นช่างกลึง ขยันขันแข็ง เป็นคนดี ก่อนจะมาติดยาเสพติดได้ประมาณ 10 ปี และเริ่มมีอาการหลอนยา และคลุ้มคลั่งหลายครั้ง ทำลายข้าวของ แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกายของพ่อแม่ มีแค่ครั้งนี้ที่ทำร้ายพ่อ คาดว่าจะหลอน โดยตนเองก็อยากให้ลูกชายเข้ารับการบำบัดหลังจากนี้ ยอมรับว่าเสียใจที่ลูกทำแบบนี้

ต่อมาเวลา 12.30 น. ผู้ต้องหาร้องขอพิซซ่า เจ้าหน้าที่จึงวางพิซซ่าที่พื้น จากนั้นผู้ต้องหาได้ปีนลงมาอยู่ในความสูงจากพื้น 2 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยิงกระสุนยาง 2 นัดใส่แขนขวา แล้วยิงปืนตาข่ายใส่ จนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ในที่สุด

โดยผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บแขนขวาถูกยิง แขนซ้ายมีร่องรอยถูกแผ่นสังกะสีบาดเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้หามผู้ต้องหาออกมา โดยมือสองทั้งข้างถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือพร้อมกับตาข่าย ท่าทางและสีหน้าผู้ต้องหาดูอิดโรยอ่อนเพลียอย่างมาก อาสาสมัครนำตัวส่ง รพ.เลิดสิน ทำการตรวจโควิดและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะนำตัวมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา วางเพลิงและทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยใช้อาวุธ พร้อมของกลางมีดอีโต้ มีดพก และปืนยิงปลา

ด้านนายเอกชัย ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนรักแม่มาก รักแม่คนเดียว ขอไม่พูดถึงพ่อรวมถึงสาเหตุการก่อเหตุและอาการมึนเมา

พ่อแม่ถูกทำร้ายประจำจนต้องย้ายหนี ลูกคลั่งไม่มีที่ระบายจุดไฟเผาบ้านวอด

พล.ต.ต.มานพ กล่าวว่า ในการปิดล้อมจับกุม เจ้าหน้าที่ได้เตรียมอุปกรณ์ที่ไม่เป็นอันตราย ทั้งนี้หลังพาตัวไปทำแผลตามร่างกายเสร็จแล้ว จะคุมตัวไปสอบสวนปากคำที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อตรวจหาสารเสพติด ซักถามรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด และเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาวางเพลิงเผาทรัพย์ และทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธ ส่วนเรื่องยาเสพติด ต้องรอผลการตรวจสารเสพติดหากพบก็จะแจ้งข้อหาเสพยาเสพภายหลังอีกครั้ง หลังการสอบสวนจะนำตัวไปศาลอาญาธนบุรีวันที่ 14 ต.ค. ต่อไป สำหรับปฏิบัติการไล่ล่าในครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 15 ชั่วโมงนับตั้งแต่ก่อเหตุ และใช้เวลาปิดล้อมเจรจาและเกลี้ยกล่อมนานกว่า 4 ชั่วโมง