สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ว่า สถาบันสังคมวิทยานานาชาติเคียฟ (เคไอไอเอส) ระบุว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นชาวยูเครน 1,067 คน ระหว่างวันที่ 16-22 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามในสัดส่วน 32% เห็นด้วยกับการยกดินแดนบางส่วนให้รัสเซีย ซึ่งตัวเลขข้างต้นเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปีก่อนหน้า และ 19% ในช่วงสิ้นปี 2566 ขณะที่ชาวยูเครน 55% ยังคงคัดค้านการยกดินแดนใด ๆ

นับตั้งแต่ปฏิบัติการทางทหารของทำเนียบเครมลิน ผ่านมาแล้วเกือบ 29 เดือน รัสเซียสามารถควบคุมดินแดนยูเครนได้ประมาณ 18% รวมถึงคาบสมุทรไครเมียที่เข้ายึดสำเร็จเมื่อปี 2557 ส่วนกองทหารของรัฐบาลเคียฟ เป็นฝ่ายเสียเปรียบในปีนี้ หลังการโจมตีตอบโต้ของพวกเขา ประสบความล้มเหลวในการชิงความได้เปรียบเมื่อปีที่แล้ว

แม้การสำรวจไม่ได้สอบถามว่า ชาวยูเครนจะยอมรับการเสียดินแดนส่วนไหน หรือขนาดเท่าไหร่ แต่เคไอไอเอส ระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้ตอบแบบสอบถามไม่ได้มองว่า ดินแดนที่สูญเสียไป ถือเป็นดินแดนของรัสเซียเสมอไป และบางคนพร้อมที่จะเลื่อนการปลดปล่อยดินแดนบางส่วนออกไป จนกว่าจะถึงเวลาที่ดีกว่า

เมื่อปี 2565 รัสเซียประกาศเพียงฝ่ายเดียวว่า ทางการได้ผนวกรวมบางภูมิภาคของยูเครนแล้ว ได้แก่ ภูมิภาคโดเนตสก์, ภูมิภาคลูฮันสก์, ภูมิภาคเคียร์ซอน และภูมิภาคซาโปริชเชีย ซึ่งภูมิภาคทั้งสี่แห่ง อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย นับตั้งแต่สงครามเปิดฉาก เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565

ด้านนายแอนตัน ฮรูเชตสกี ผู้อำนวยการบริหารของเคไอไอเอส กล่าวว่า ชาวยูเครนจำนวนมาก ยังคงไม่เห็นด้วยกับแนวคิดบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย ที่มีเงื่อนไขใด ๆ.

เครดิตภาพ : AFP