เมื่อวันที่ 6 ส.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในการประชุม ครม.วันนี้ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าสู่วาระการพิจารณา ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้กำชับเรื่องใดมาเป็นพิเศษ ส่วนในการประชุมดังกล่าวมีกรณีที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เตรียมเสนอรายชื่อข้าราชการ เพื่อทดผู้ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้นั้น ซึ่งในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยังไม่ได้มีการเสนอรายชื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการให้ที่ประชุมพิจารณา เนื่องจากตนคิดว่ายังพอมีเวลา อีกทั้งนายกรัฐมนตรีได้กำชับในที่ประชุมให้รับทราบถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการช่วงฤดูเกษียณอายุราชการของทุกกระทรวงด้วยว่า จะต้องดูข้อกฎหมายและระเบียบการแต่งตั้งอย่างรอบด้าน เพื่อให้ได้บุคคลที่เข้ามาทำงานตามเป้าหมาย
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับบุคลากรในองค์กรหลัก ศธ.ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์และจะเกษียณอายุในปี 2567 เดือนกันยายนนี้นั้น โดยตำแหน่งสำคัญของผู้บริหาร ศธ.ที่จะมีการเกษียณอายุราชการในปีนี้ คือ ตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) 1 ตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) 2 ตำแหน่ง และผู้ตรวจราชการ ศธ. 1 ตำแหน่ง ซึ่งในจำนวนนี้มีตำแหน่งผู้บริหารระดับ 11 ของ ศธ.ด้วย โดยถือเป็นตำแหน่งสำคัญของผู้บริหารระดับสูง ทั้งนี้การแต่งตั้งดังกล่าวตนจะต้องหารือร่วมกับนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกบุคคลให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานและคิดว่าจะต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ด้วย
ต่อข้อถามว่า การแต่งตั้งข้าราชการ ศธ.แทนอัตราเกษียณอายุราชการครั้งนี้จะมีการหมุนสลับตำแหน่งผู้บริหารระดับ 11 ด้วยกันเองหรือไม่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคิดว่าทุกอย่างก็เป็นไปได้หมด ซึ่งตนไม่มีใครในใจ และยืนยันว่าการแต่งตั้งไม่มีระบบเด็กฝากอย่างแน่นอน เพราะการคัดเลือกบุคคลของตนจะต้องดูให้เหมาะสมกับเนื้องานที่ได้รับมอบหมายด้วย
