เมื่อวันที่ 30 ส.ค. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงคมนาคม เร่งเดินหน้าช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบอุทกภัย ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้มีความพร้อมรับมือกับเหตุอุทกภัย และการให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และการให้ความช่วยเหลือในการดำรงชีพช่วงน้ำท่วม โดยได้กำชับต้องเข้าถึงพื้นที่ และแก้ปัญหาเส้นทางคมนาคมที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว พร้อมทั้งเตรียมการรับมือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์อุทกภัย โดยศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคมรายงานว่า ในวันที่ 29 ส.ค. 67 ประเทศไทยยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมาก 4 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา โครงข่ายคมนาคมที่ได้รับผลกระทบสะสมรวม 181 แห่ง ผ่านไม่ได้ 18 แห่ง ประกอบด้วย เส้นทางหลวง ได้รับผลกระทบ 84 แห่ง ผ่านไม่ได้ 8 แห่ง เส้นทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบ 96 แห่ง ผ่านไม่ได้ 9 แห่ง เส้นทางรถไฟ ได้รับผลกระทบผ่านไม่ได้ 1 แห่ง ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือ และดูแลประชาชนโดยกรมทางหลวง (ทล.) คอยอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทาง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง รวมถึงจัดถุงยังชีพเพื่อมอบให้กับผู้ประสบภัย และเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา

ถกรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 9 (อุตรดิตถ์) และแขวงทางหลวงชนบทสุโขทัย เร่งระดมเจ้าหน้าที่บรรจุกระสอบทราย เพื่อนำไปวางเป็นแนวกั้นน้ำบริเวณพื้นที่ชุมชนอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่จัดถุงยังชีพ ประกอบด้วยอาหารแห้ง น้ำดื่ม และของใช้จำเป็น มอบให้กับประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่กรมเจ้าท่า (จท.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยเรือท้องแบนพระราชทาน เรือเจ็ตสกี และรถยนต์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน นำถุงยังชีพ อาหารกล่องและน้ำดื่ม มอบให้ผู้ประสบภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก และ ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย กำลังพลประจำพื้นที่พร้อมให้การช่วยเหลือ และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งช่วยขนย้ายสิ่งของ และรับส่งประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเข้า-ออก บ้านพักอาศัย พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง     

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ดำเนินการขุดขยายคอสะพานบริเวณคลองน้ำไหล อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ทำให้ขณะนี้ภาพรวมการให้บริการยังไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ รฟท. จะติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะ ทล. ทช. จท. และ รฟท. เร่งดำเนินการโดยบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานต่าง ๆ และรายงานศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม ตามแผนปฏิบัติการ 

ตลอดถึงการเข้าแก้ไขปัญหาเพื่อปรับคืนเส้นทางสู่สภาพเดิมภายหลังน้ำลดในเบื้องต้นโดยใช้งบประมาณที่มีอยู่ โดยต้องเข้าพื้นที่ฟื้นฟูเพื่อเร่งคืนสภาพผิวจราจรทุกพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้เส้นทางให้เดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัยโดยเร็วที่สุด และให้ทำการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อพิจารณาขอรับการจัดสรรงบประมาณสำหรับซ่อมแซมต่อไป ทั้งนี้ ขอฝากความห่วงใยประชาชนให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และขอให้ผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด.