เมื่อวันที่ 7 ก.ย. นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผวจ.สมุทรสงคราม มอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับเยาวชนคนเก่ง ประกอบด้วย นายอริณชย์ ทองแตง และ น.ส.อริสา ทองแตง สองพี่น้องนักอนุรักษ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Below the Tides นายอัครัช มงคลรัตนชาติ นายณธรรศ นราธัศจรรย์ นายนนทพัทธ์ ชินวัฒนโชติ นายพัชรพงศ์ เฉลิมทรัพยากร และ นายปรานต์ ปาจารย์ จากโรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ ที่นำเอาสมุทรสงคราม เป็นแก่นของการริเริ่มโครงการในใช้เทคโนโลยี AI Voiceover ในการบอกเล่าเรื่องราว ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าถึงประวัติศาสตร์ วิถีชุมชน ได้ถ่องแท้ขึ้น เป็นอีกวิธีที่พัฒนาคุณภาพการท่องเที่ยวของจังหวัดให้ดีขึ้นและยั่งยืน
เสี่ยงสูญพันธุ์! 2 พี่น้องหัวใจนักอนุรักษ์ผุดโครงการระดมทุนช่วยเต่าทะเล
สืบเนื่องจาก วันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา กลุ่ม Below the Tides โดย นายอริณชย์ น.ส.อริสา นายอัครัช นายณธรรศ นายนนทพัทธ์ นายพัชรพงศ์ และ นายปรานต์ ปาจารย์ ร่วมรับรางวัลชมเชย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในการประกวดโครงการมนุษยศาสตร์สู่ชุมชน (Humanities for Community – H4C) ครั้งที่ 3 ประจำปี พ.ศ. 2567 ในหัวข้อ “คลิก พลิก เปลี่ยนชุมชน” ที่คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยหยิบยกเอาจ.สมุทรสงคราม เป็นต้นแบบในการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาเล่าเรื่องราว ต่างๆใน จ.สมุทรสงคราม เป็นการช่วยส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนรู้จัก และส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.สมุทรสงคราม มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ โครงการของกลุ่ม Below the Tides ภายใต้ชื่อ Echoes of the Past: Sustainable Heritage Tourism ที่ได้รับรางวัลในครั้นนี้ เป็นการนำเทคโนโลยี AI Voiceover มาใช้ในการเล่าเรื่องราว ความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ของชุมชนในจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อที่จะสร้างอรรถรสให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติซาบซึ้งและเข้าใจถึงวิถีชุมชนได้ดีขึ้น ขจัดอุปสรรคด้านภาษาโดยเรื่องเล่าราวของพื้นที่ๆได้มาจากผู้รู้จริงในชุมชน เพื่อให้ตรงกับเจตนารมณ์ และเข้าใจวิถี หรือความตั้งใจของแต่ละพื้นที่อย่างถูกต้อง และใช้เทคโนโลยี AI Voiceover มานำเสนอในภาษาต่างๆ
โดยปัจจุบันมี 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาไทย จีนกลาง ภาษาอังกฤษ และ ภาษาสเปน เพื่อเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบที่ยั่งยืน หยิบยก 4 สถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ ได้แก่ ตลาดน้ำอัมพวา มูลนิธิชัยพัฒนานุรักษ์ โรงเรียนธรรมชาติป่าชายเลน และ สมดุล (Somdul Agroforestry Home) เป็นการเริ่มต้นการท่องเที่ยวแบบ low-carbon tourist destination โดยมีความตั้งใจในระยะยาวที่จะขยายผลให้เป็นการท่องเที่ยวแบบค้างคืนจากที่ปัจจุบันคนนิยมเดินทางมาแบบไปเช้ากลับเย็น (one-day trip)