เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “ข่าวท้องถิ่นเพชรบูรณ์” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “รถกูแรง กูไม่สน กูปาด กูฝ่าไฟแดงอย่างเดียว” 24-9-67 09:00 น. รถอีซูซุดีแมกซ์สีแดง หมายเลขทะเบียน .. อุทัยธานี รถแต่งซิ่ง ขับด้วยความประมาทหวาดเสียว หาสัญญาณไฟหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทร อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งที่มีรถจักรยานยนต์ มาช่องทางปกติสัญญาณไฟเขียว”
พร้อมกันนี้ก็ได้โพสต์คลิปวีดีโอ รถกระบะสีแดงคันหนึ่งในลักษณะโหลดเตี้ย ขับมาจอดติดไฟแดง เมื่อสัญญาณไฟเขียว รถคันดังกล่าวก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงแยกสัญญาณไฟอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟแดง แต่รถยนต์คันดังกล่าวกลับไม่รอสัญญาณไฟฝ่าไฟแดงออกไป โชคดีที่ไม่มีรถฝั่งสัญญาณไฟเขียว จึงไม่เกิดอุบัติเหตุ
ภายหลังจากได้มีการแชร์คลิปดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ส่วนมากตำหนิการกระทำของคนขับรถกระบะคันดังกล่าว พร้อมทั้งเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนขับมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เช่น “คุณพ่อเค้าเรียกหรือปล่าวคับ เค้าเลยรีบไปหา” , “เขาอาจจะมีธุระรึรีบไปไหนรึป่าวคับ” , “คนอัปรีย์พวกนี้” , “พิสูจน์ฝีมือตำรวจและขนส่ง” , “รอชมฮ่ะ พี่หนวด” “กฎหมายจะมีไว้ทำไม ทั้งแจ้ง ทั้งโทร เงียบกริบ จบ ตำรวจไทย” , “มันบ้ายารึป่าวคนดีเค้าไม่ทำกัน” , “เมายา เมาเหล้า” , “ท้าทายตำรวจที่สุด” , “ให้ตามคลิปที่พี่ถ่ายไว้ไม่อย่างนั้นพี่ต้องโทรแจ้ง 191 รถกระบะคันสีแดงขับรถฝ่าสัญญาณไปจราจรบนท้องถนนเดี๋ยวจะขอให้เกิดอันตรายคนใช้ถนนร่วมทางกัน” ฯลฯ
ด้าน นายเอ (นามสมมุติ) เจ้าของคลิป เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นถนนสายเลี่ยงเมือง ปากน้ำ-คลองศาลา ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ คนขับรถมาจากแยกปากน้ำ มุ่งหน้าไปคลองศาลา ต.ในเมือง เมื่อมาถึงจุดดังกล่าว ได้มีรถกระบะคันสีแดงขับแซงมาอย่างรวดเร็วและจอดติดไฟแดง โดยที่ด้านหน้าตนเป็นรถกระบะตู้ทึบส่งของ เมื่อสัญญาณไฟเขียว รถกระบะสีแดงได้เร่งเครื่องและออกตัวไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปาดหน้ารถกระบะตู้ทึบ กระทั่งมาถึงอีกสัญญาณไฟ ซึ่งขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟแดง รถกระบะตู้ทึบและรถยนต์ของตนเองก็จอดรอสัญญาณไฟ แต่รถกระบะคันสีแดงกลับฝ่าไฟแดงออกไป โชคที่ฝั่งสัญญานไฟเขียวไม่มีรถออกมา ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุก็เป็นได้
“สาเหตุที่ตนนำมาโพสต์ในโซเชียลเพราะว่า อยากให้ทุกคนเคารพกฎจราจร รวมทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ขับขี่รายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายเอ กล่าว.