เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ชทพ. กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ที่หลายพรรคเคลื่อนไหวจนถูกมองอาจใกล้ถึงเวลายุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกตั้งใหม่ว่าสภาฯ ชุดนี้หมดวาระวันที่ 23 มี.ค.2566 นับจากนี้ไปเหลือเวลาเพียงปีกว่าเท่านั้น ส่วนประเด็น ส.ส.ลงพื้นที่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหลายจังหวัดประสบปัญหาอุทกภัย
เมื่อถามว่า ไม่ใช่การส่งสัญญาณเตรียมเลือกตั้งจากนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ส.ส.ลงพื้นที่เข้าหาประชาชนเป็นเรื่องปกติ เหมือนเวลาสอบถ้าท่องหนังสือเรื่อยๆ สอบเมื่อไหร่ไม่เคยกลัว เช่นเดียวกับการเป็น ส.ส. ถ้าทำการบ้านลงพื้นที่เรื่อยๆ จะยุบสภาฯ เลือกตั้งปีหน้า เดือนหน้า หรือครบสมัยไม่ใช่ประเด็น
ส่วนประเด็น “ไพบูลย์โมเดล” ที่พรรคเล็กอาจเอาอย่าง นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยุบพรรคตัวเองเพื่อไปเข้าพรรคใหญ่นั้น นายวราวุธ กล่าวว่าการทำงานของพรรค ชทพ. มีแต่มิตร ไม่สร้างศัตรู เน้นแก้ปัญหาให้ประชาชน ไม่เน้นเล่นการเมือง รัฐมนตรีทั้ง 2 คนของพรรคไม่ค่อยพูดประเด็นการเมือง แต่ทำงานเพื่อประชาชนเพียงอย่างเดียว ดังนั้นหากมีแนวทางทำงานที่คล้ายกันพรรค ชทพ.จะเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งที่พร้อมต้อนรับคนตั้งใจทำงาน เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน
นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ชทพ. มองว่ากรณีไพบูลย์โมเดล เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อยุบพรรค ส.ส. ต้องหาสังกัดพรรคใหม่ มิเช่นนั้นจะขาดสมาชิกภาพ ตนเห็นด้วยถ้าพรรคที่อยู่คนเดียวต้องการย้ายไปอยู่กับพรรคอื่น หรือยุบพรรคเพื่อให้พรรคตัวเองใหญ่ขึ้นและหากมี ส.ส. ต้องการย้ายเข้าพรรค ชทพ. เรายินดีต้อนรับ เพื่อช่วยกันทำงาน เพราะเราเป็นพรรคเก่าแก่เป็นที่รู้จักของประชาชน
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ยืนยันไม่มีนโยบายยุบพรรคพลังธรรมใหม่ไปรวมกับพรรคใหญ่ พร้อมย้ำขณะนี้เตรียมความพร้อมเลือกตั้งสมัยหน้าอยู่ระหว่างเดินหน้า จัดตั้งโรงเรียนผู้นำการเมืองที่จังหวัดสกลนคร, ร้อยเอ็ด และเชียงใหม่ เป็นต้น
“ผมยอมรับการควบรวมพรรคเล็กไปอยู่พรรคใหญ่ หรือไพบูลย์โมเดลนั้น ส่งผลต่อความรู้สึกของพรรคเล็กอื่น ๆ เพราะการทำพรรคเล็กมีอุปสรรคมากมาย ต้องใช้เงินจำนวนมาก และทำงานลำบากกว่าอยู่พรรคใหญ่ๆ ซึ่งในอนาคตผมเชื่ออาจมีพรรคเล็กยุบไปรวมพรรคใหญ่ แต่สำหรับพรรคพลังธรรมใหม่ เชื่อมั่นในความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพรรค เราไม่มีนโยบายยุบพรรคไปรวมกับพรรคขนาดใหญ่แน่นอน” นพ.ระวี กล่าว
