สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ว่ากระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ เมื่อวันเสาร์ ว่าวัคซีน “โคโรนาแวค” ของบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค จากจีน จะได้รับการรวมเข้าสู่การเป็นหนึ่งในวัคซีนหลัก ของโครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติจากโรคโควิด-19 ร่วมกับวัคซีน “โคเมอร์นาตี” ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และ “สไปค์แวกซ์” ของโมเดอร์นา


ทั้งนี้ วัคซีนของซิโนแวคได้รับการอนุมัติชั่วคราวจากสำนักงานวิทยาศาสตร์สุขภาพแห่งชาติของสิงคโปร์ เนื่องจาก “มีความต้องการสูงมาก” จากประชาชนซึ่งไม่ประสงค์รับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ โดยจะไม่มีค่าใช้จ่าย เนื่องจากถือเป็นวัคซีนหลักแล้ว แต่ผู้ที่ฉีดก่อนหน้านั้น ในช่วงที่ซิโนแวคยังเป็นวัคซีนทางเลือก ถือว่ายินยอมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้แล้ว


สำหรับแผนการฉีดนั้น ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและไม่สามารถรับวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอได้ “ด้วยเหตุผลทางการแพทย์เท่านั้น” จะได้รับวัคซีนของซิโนแวค 3 เข็ม ขณะที่ประชาชนซึ่งรับวัคซีนของซิโนแวคไปแล้ว 1 เข็ม หากสามารถรับวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอได้ ขอให้รับวัคซีนนั้นเพิ่มอีกสองเข็ม ส่วนผู้ที่รับวัคซีนซิโนแวคครบสองเข็มแล้ว ขอให้ฉีดวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอเพิ่มอีกเข็มหนึ่ง


แนวทางดังกล่าวจะเป็นแบบเดียวกับผู้ที่ฉีดวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอเข็มแรก แล้วมีอาการข้างเคียงรุนแรง จะได้รับวัคซีนของซิโนแวคอีกสองเข็ม และหากอาการข้างเคียงรุนแรงเกิดขึ้น หลังฉีดวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอครบสองเข็ม ขอให้รับวัคซีนของซิโนแวคเพิ่มอีกเข็มหนึ่งเป็นบูสเตอร์ ในกรณีที่เป็นบุคคลซึ่งรัฐบาลถือว่าเป็น “กลุ่มเปราะบาง”


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสิงคโปร์ไม่มีแผนใช้วัคซีนเชื้อตายฉีดกระตุ้น ให้กับผู้ที่รับวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอครบสองเข็ม แล้วไม่มีอาการผิดปกติใด ซึ่งขอให้เตรียมรับวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอเป็นบูสเตอร์ดังเดิม และภาครัฐยังไม่มีนโยบายใช้วัคซีนเชื้อตายกับเด็กวัย 12-17 ปี.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES