เมื่อวันที่ 12 พ.ย. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะโฆษก ศธ. เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ตนร่วมประชุมกับบริษัท กูเกิล  ซึ่งถือเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยเป็นการประชุมเพื่อการศึกษา ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งได้มีการประชุมถึงนโยบายการศึกษาของประเทศต่างๆ เช่น ประเทศมาเลเซีย เวียดนาม หรือญี่ปุ่น เป็นต้น รวมถึงได้ไปดูการบริหารจัดการด้านการศึกษาของสิงคโปร์ โดยได้มีการศึกษาดูงานโรงเรียนระดับท้องถิ่นของประเทศสิงคโปร์ที่มีนักเรียนประมาณ 3,000 คน ซึ่งโรงเรียนแห่งดังกล่าวได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการศึกษา  ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าประเทศสิงคโปร์ได้นำไอทีมาใช้จัดการเรียนการสอนค่อนข้างเกือบทุกโรงเรียน โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ เข้ามาใช้จัดการเรียนการสอน เพื่อปูพื้นฐานทางการศึกษาให้แก่ผู้เรียน นอกจากนี้ยังได้ไปดูโรงเรียนระดับชุมชนของสิงคโปร์ ซึ่งพบว่า โรงเรียนมีการนำแท็บเล็ตหรืออุปกรณ์เสริมการสอนมาให้นักเรียนได้ใช้งาน โดยโรงเรียนมีนโยบายที่ดีในการจำกัดการใช้งานอุปกรณ์เสริมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการยืมอุปกรณ์กลับบ้าน และกำหนดเวลาในการใช้งาน ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ การใช้งานอุปกรณ์เสริมในกลุ่มเด็กเล็กนั้น อุปกรณ์จะปิดตัวเองลงแบบอัตโนมัติเมื่อหมดเวลาการใช้งาน โดยโรงเรียนกำหนดเวลาไม่เกิน 20.00 น.

“การไปประชุมด้านการศึกษาที่สิงคโปร์ครั้งนี้ ถือเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการศึกษากับประเทศต่างๆ ว่า แต่ละประเทศได้นำกระบวนการที่นำเอาดิจิทัลเทคโนโลยี หรือ Digital Transformation มาใช้ในระบบการศึกษาและโรงเรียนอย่างไรบ้าง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งทำให้เราพบว่า ในการประชุมครั้งนี้มีข้อเสนอแนวทางอย่างไรที่จะให้บริษัท กูเกิล  เข้ามาสนับสนุนบริการเรื่องเอไอและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีต่างๆ ในราคาที่ถูกลงได้บ้าง เพื่อจะทำให้เด็กได้เข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น ซึ่งหากทำได้จะส่งผลให้ลดระยะห่างของความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้  สำหรับการไปประชุมด้านการศึกษาครั้งนี้หลายเรื่องสอดคล้องกับนโยบายเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาของศธ.อยู่แล้ว แต่คิดว่าจะนำรูปแบบการบริหารจัดการเครื่องอุปกรณ์เสริมการสอนสำหรับเด็กเล็กและการใช้งานแท็บเล็ตจากตัวอย่างของประเทศสิงคโปร์มาปรับใช้กับโรงเรียนในประเทศไทย เพราะเป็นเรื่องที่ รมว.ศธ.ห่วงเรื่องการใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับเด็กเล็กมากที่สุด” นายสิริพงศ์ กล่าว