เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานการติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล วันที่ 1 ธ.ค. เวลา 12.00 น. ตรวจวัดได้ระหว่าง 25.3-60.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบเกินค่ามาตรฐาน 40 พื้นที่ และพบค่าสูงสุดอยู่ที่ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
จากการประเมินค่าฝุ่นละออง PM2.5 รายชั่วโมง ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล จะมีแนวโน้มสูงในช่วงระหว่างวันที่ 2-6 ธ.ค. เนื่องจากมวลอากาศเย็นที่กำลังแรงขึ้นแผ่ปกคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้อากาศนิ่งและจมตัว ประกอบกับอัตราการระบายอากาศที่ลดต่ำลง และจากข้อมูลจุดความร้อน GISTDA พบว่าวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมาประเทศไทยพบจุดความร้อนทั้งสิ้น 184 จุด โดยส่วนมากพบในพื้นที่เกษตรกว่า 140 จุด อีกทั้งแนวลมเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดพาไปตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้ กทม. เป็นพื้นที่ท้ายลม ทำให้ฝุ่นละอองมีโอกาสที่จะสะสมในบรรยากาศได้
ทั้งนี้ สถานการณ์มีแนวโน้มที่จะบรรเทาลงหลังวันที่ 7 ธ.ค. เนื่องจากอัตราการระบายอากาศขยับสูงขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับสภาพอุตุนิยมวิทยาที่เอื้อต่อการระบายฝุ่นละอองมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ฝุ่นละอองที่สะสมในบรรยากาศมีแนวโน้มลดลง
ศกพ.ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนดูแลสุขภาพ ตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้านผ่านเว็บไซต์ Air4Thai.pcd.go.th หรือ ทางแอปพลิเคชัน Air4Thai ลดหรืองดการใช้รถยนต์ โดยหันไปใช้รถสาธารณะในการเดินทาง และงดการเผาทุกชนิด ทั้งในพื้นที่ กทม.และจังหวัดรอบปริมณฑล เพื่อช่วยกันลดการสะสมของฝุ่นละอองในช่วงเวลาดังกล่าว.