นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า กยท. เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวสวนยางและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เน้นย้ำให้ กยท. เข้าดูแลชาวสวนยางและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในครั้งนี้ ซึ่งจากการรายงานในเบื้องต้น พบว่า มีพื้นที่สวนยางที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 4 จังหวัด จำนวนกว่า 353,000 ไร่ เกษตรกรได้รับผลกระทบ จำนวนกว่า 40,000 ราย  โดยทันทีที่เกิดเหตุอุทกภัยขึ้น กยท. ได้จัดถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภค บริโภค ยารักษาโรค และสิ่งของที่จำเป็น มอบให้แก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย โดยใช้งบประมาณจากเงินช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์การสนับสนุนปัจจัยยังชีพกรณีครัวเรือนเกษตรกรชาวสวนยางประสบภัยพิบัติตามธรรมชาติ จำนวน 400,000 บาท (จังหวัดละ 100,000 บาท) พร้อมตั้งโรงครัวเพื่อทำอาหารแจกจ่าย และได้อนุเคราะห์สำนักงานของ กยท. เป็นที่พักอาศัยและเป็นสถานที่จอดยานพาหนะชั่วคราวแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่

นอกจากความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว หลังน้ำลดกลับสู่ภาวะปกติ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กยท. ในพื้นที่ เข้าตรวจสอบสภาพสวนยางของพี่น้องเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ซึ่งหากสวนยางประสบภัยจนเสียสภาพสวน หรือต้นยางได้รับความเสียหายเกิน 20 ต้น/แปลง ตามหลักเกณ์ที่กำหนด กยท. จะจัดสรรเงินจากกองทุนพัฒนายางพารา มาตรา 49(5) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง รายละไม่เกิน 3,000 บาท  นอกจากนี้ ยังมีเงินทุนให้กู้ยืมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางอีกรายละไม่เกิน 50,000 บาท แบบปลอดดอกเบี้ยตลอดสัญญา สำหรับเกษตรกรที่มีที่อยู่อาศัยหรือมีสวนยางตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาล ปรับปรุงที่อยู่อาศัยยานพาหนะ หรือเป็นทุนในการประกอบอาชีพอีกด้วย

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ร่วมช่วยเหลือหรือแบ่งปันน้ำใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย สามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาบางขุนนนท์ เลขที่บัญชี 058-0-37995-7 ชื่อบัญชี กยท.เงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ ได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 20 ธันวาคม 2567