คนที่อดรนทนไม่ได้กับเรื่องนี้ ออกมาพูดแล้ว คือ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำแดงขอนแก่น ทำนองว่า ถ้าภูมิใจไทยเยอะเรื่องนักอาจต้องยุบสภา แต่ “รองอ้วน”นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ออกมาตัดจบก่อน ว่า นายกฯยังไม่คิดเรื่องนี้.. แต่การเมืองเปลี่ยนแปลงได้ตลอด
ก็ไม่รู้ว่า“อะไรคือฟางเส้นสุดท้าย” ที่จะทำให้ลาชื่อเพื่อไทยหลังหักเพราะภูมิใจไทยได้ กระแสข่าวการเตรียมตัวฟอร์มรัฐบาลหลังเลือกตั้งก็โผล่มาบ้าง อย่างข่าวที่ว่ามี“พรรคโอกาสใหม่”ที่รวมตัวพวกข้าราชการเก่าไว้ เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวของอดีตปลัดคนดังซึ่งมีชื่อเป็นมือดีลมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลประยุทธ์ ร่วมกับนายทุน
อาจมีพรรคเกิดใหม่อีก เพื่อหวังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ซึ่งถ้ามั่นใจว่า ได้เสียง สส.ราวๆ 300 คนที่จะจับขั้วเดียวกันเมื่อไร เผลอๆ อาจชิงยุบสภา ตอนนี้เพื่อไทยก็เริ่มแบะท่าออกมาแล้วว่า ต้องการ สส.200 คน ซึ่งให้จับตาการสร้างฐานเสียงจากการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ.) ที่จะเลือกตามวาระ ต้นเดือน ก.พ.68
ตอนนั้นจะมีการแสดงออกที่ชัดขึ้น ว่า“เพื่อไทยจะทุบภูมิใจไทยที่ไหนบ้าง”เบื้องต้นที่เริ่มมีท่าทีออกมาแล้วคือ ศรีสะเกษ ที่ข่าวว่าเพื่อไทยจะส่งนายวิวัฒนไชย โหตระไวศยะ ชิ้งเก้าอี้จากนายกส้มเกลี้ยง วิชิต ไตรสรณกุล …ในภาคอีสานคงมีการ“วัด”กันในหลายเขต สำรวจว่า เพื่อไทยมีโอกาสได้เก้าอี้ สส.ที่ไหนบ้าง โดยเฉพาะอีสานล่าง
ยุบสภา ข้อดีคือ สส.ไม่ต้องสังกัดพรรค 90 วัน จึงจะลงเลือกตั้งได้ จึงมีความเป็นไปได้ว่าหากมีดีลอะไรให้เพื่อไทยดูด สส.ข้ามพรรคได้ ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหนก็ตาม และได้จำนวนอยู่ใน“เขตปลอดภัย”แล้วก็อาจยุบสภา ซึ่งปรากฏการณ์ทางการเมืองต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ก็ยังไม่เห็นว่า เพื่อไทยได้ไปเปิดดีลอะไรกับใครชัดเจน
แต่นาทีนี้ เพื่อไทยก็คงไม่คิดว่า ตัวเองอยู่ในเขตปลอดภัยที่ว่า ส่วนหนึ่งเพราะคะแนนนิยมของรัฐบาลยังไม่ได้กระเตื้องขึ้นมากนัก นโยบายอะไรที่ประกาศเป็นเรือธงก็ยังไม่สำเร็จดี อย่างเรื่องแจกเงินหมื่นเขาก็ตั้งแง่กันอยู่ว่า จะชิงเอาคะแนนช่วงเลือกตั้งใหญ่นายก อบจ.หรือเปล่า ? นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ตอนนี้ก็ยังเด่นสู้โอทอปไม่ได้ด้วยซ้ำ
ประกอบกับตัว “นายกฯอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เอง ก็ยังไม่หลุดจากเงา “พ่อแม้ว ทักษิณ ชินวัตร”นัก สำหรับคนชอบทักษิณคงไม่คิดอะไร แต่ก็มีคนจำนวนหนึ่งที่ต้องการการเปลี่ยนขั้วอำนาจแล้ว และเชื่อได้ว่า ยังมีอีกหลายคนที่ประเมินวุฒิภาวะของนายกฯ อิ๊งค์อยู่ จากการสัมภาษณ์ต่างๆ ที่บางครั้งก็เห็นได้ว่า “ไม่ได้เตรียมตัวมากพอ”
จะรวมเสียงแล้วไม่เอาภูมิใจไทยจริง อย่างน้อยก็ต้องให้แน่ใจว่าพรรคประชาชน ( ปชน.) จะได้ สส.จำนวนน้อยกว่าเดิมอย่างมีนัยยะสำคัญ ปชน.เองก็“เอาอยู่ยาก”สำหรับเพื่อไทย เพราะถ้ามองการเมืองแบบสองขั้ว อนุรักษ์นิยมกับเสรีนิยม สองพรรคก็เป็นภาพตัวแทนของแต่ละขั้ว และ ปชน.เองก็คงกลัวกองเชียร์รุมสาปเกินกว่าจะจับมือเพื่อไทย
ณ ขณะนี้ยังไม่ต้องคิดอะไรเยอะเรื่องจะยุบสภา เพราะดูสภาพความพร้อมแล้วเพื่อไทยยังไม่น่าจะมั่นใจมาก และแม้จะเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล แต่ในละครการเมือง เพื่อไทยไม่ใช่ผู้เล่นที่ต้องจับตาเพียงผู้เดียว องค์ประกอบอื่นๆ ที่จะทำให้เหตุการณ์สุกงอมมีทั้งการสะสมเรื่องมาเรื่อยๆ หรืออยู่ๆ เกิดเหตุไม่คาดฝันได้หมด
แต่ถ้าตราบใดที่เพื่อไทยยังไม่มั่นใจเสียง สส.ถึง 200 จะไม่ขยับอะไรโฉ่งฉ่างแน่