เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. สาวชาวไต้หวันคนหนึ่ง ได้โพสต์บทความบนโลกออนไลน์ โดยระบุว่า “ช่วงนี้ฉันมักได้กลิ่นหนูตายจากแฟนของฉัน โดยเฉพาะเวลาที่เขานอน ฉันได้กลิ่นจากระยะไกลเลย แฟนของเธอแปรงฟันเป็นประจำและมีสุขอนามัยในช่องปากที่ดี แต่ลมหายใจของเขาก็ยังมีกลิ่นแรงมากจนทำให้เธอตื่นจากการนอน แม้จะพยายามใช้วิธีอื่นแล้ว แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น” เธอจึงโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือจากชุมชนออนไลน์ ทุกครั้งที่เข้าใกล้แฟน กลับได้กลิ่นเหมือนหนูตาย
ซึ่งหลังจากที่เธอได้โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวโลกออนไลน์ เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก พร้อมกับเตือนเธอให้พาแฟนไปโรงพยาบาลทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายแรง เช่น นิ่วในต่อมทอนซิล ปัญหาเกี่ยวกับตับและไต หรือแม้แต่โรคมะเร็งโพรงจมูก
ขณะที่ หวงซวน แพทย์ชื่อดังชาวไต้หวัน กล่าวว่า แม้ว่ากลิ่นปากจะเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไป แต่ก็สามารถเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพได้ กลิ่นแต่ละแบบอาจบ่งบอกถึงโรคที่แตกต่างกัน
กลิ่นกำมะถัน เกิดจากแบคทีเรียที่ย่อยสลายเศษอาหารและเซลล์ที่ตายแล้วในปาก ทำให้เกิดสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ที่มีกลิ่นกำมะถัน กลิ่นนี้มักเกิดจากสุขอนามัยในช่องปากไม่ดี เหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์ หากปล่อยทิ้งไว้ โรคเหล่านี้อาจส่งผลต่อสุขภาพหัวใจได้
กลิ่นเปรี้ยว กลิ่นเปรี้ยวในลมหายใจอาจเป็นสัญญาณของโรคกรดไหลย้อน (GERD) ซึ่งมักมาพร้อมอาการแสบร้อนกลางอก ความไม่สบายในหลอดอาหาร และรสขมในปาก หากปล่อยไว้นาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหลอดอาหาร
กลิ่นเหม็นขม กลิ่นปากที่เหม็นขมพร้อมกับอาการตัวเหลือง อาจเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับตับ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษา
กลิ่นผลไม้เน่า หากร่างกายมีน้ำตาลในเลือดมากเกินไปและขาดอินซูลิน ไขมันในร่างกายจะถูกสลายและเกิดสารคีโตน ทำให้ลมหายใจมีกลิ่นเหมือนผลไม้เน่า อาจเป็นสัญญาณของภาวะคีโตแอซิโดซิสในผู้ป่วยเบาหวาน
กลิ่นคาวปลา เกิดจากภาวะที่ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญไตรเมทิลามีนได้ตามปกติ ทำให้ของเหลวในร่างกายและลมหายใจมีกลิ่นคาวปลา อาการนี้เรียกว่า Fish Odor Syndrome มักเกิดจากพันธุกรรม แต่สามารถลดอาการได้ด้วยการปรับอาหาร